การออกแบบห้องนั่งเล่น

การตกแต่งห้องนั่งเล่นของทีม  นายหน้าขายบ้าน  แค่ชื่อก็บ่งบอกถึงหน้าที่ของห้องนี้ได้เป็นอย่างดี ห้องนั่งเล่นถือเป็นหนึ่งในห้องโปรด และเป็นพื้นที่สำคัญของทุกสมาชิกในครอบครัว เป็นที่พบปะ เจอหน้า สังสรรค์ใช้เวลาทำกิจกรรมหลากรูปแบบที่ครอบครัวแต่ละครอบครัวชอบทำร่วมกัน ห้องนั่งเล่นจึงมีหน้าที่อเนกประสงค์และควรเป็นห้องที่มีความยืดหยุ่นสูงในการปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้โดยง่าย นอกจากในแง่อรรถประโยชน์แล้ว ห้องนั่งเล่นยังต้องเป็นห้องที่ดูดี เป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นหน้าเป็นตาของบ้าน เพราะเป็นห้องที่หลายบ้านใช้เป็นที่รับแขก ให้ผู้มาเยือนรู้สึกเป็นที่ต้อนรับ สามารถนั่งและพูดคุยได้อย่างสบายๆ

ตกแต่งห้องนั่งเล่นทั้งที ต้องคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้าง

ห้องนั่งเล่นจะออกมาเป็นห้องนั่งเล่นที่ดีพร้อมครบสมบูรณ์ได้อย่างรายละเอียดย่อหน้าด้านบนได้นั้น ต้องผ่านการออกแบบและเลือกใช้ส่วนประกอบแต่ละส่วนอย่างถี่ถ้วน ทุกองค์ประกอบที่เราต้องการใช้งานในชีวิตประจำวันควรถูกรวมไว้ให้ครบถ้วนแต่ก็ต้องไม่เยอะมากจนทำให้ห้องรกเกินไป นอกจากเรื่องการใช้งานแล้วเรื่องของดีไซน์และสไตล์ก็สำคัญเช่นเดียวกันที่ทีม  นายหน้าขายบ้าน  ห้องนั่งเล่นจะออกมาหน้าตาเป็นแบบไหน ลองดูส่วนประกอบหลักๆตามตัวอย่างด้านล่างนี้ (รายละเอียดของการตกแต่งห้องนั่งเล่นของแต่ละครอบครัวอาจแตกต่างไปจากนี้ แล้วแต่รูปแบบการใช้งานและรสนิยมของเจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัว)

การจัดที่นั่ง 
ส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของห้องนั่งเล่น ที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือโซฟาและเก้าอี้ตามชื่อการใช้งานของห้องนั่นเอง โซนที่นั่งมันจะตั้งอยู่ตรงกลางของห้อง เพราะเป็นจุดศูนย์รวมของการใช้งาน แต่ทั้งนี้ เราก็ไม่จำเป็นต้องวางโซฟาหรือเก้าอี้ไว้ตรงกลางเสมอไป อันนี้ขึ้นอยู่การตกแต่งและการออกแบบห้องนั่งเล่นของคุณ โซฟาที่ใช้นั้นคุณสามารถเลือกได้ตามรสนิยมของคุณว่าอยากจะให้ภาพรวมห้องนั่งเล่นของคุณนั้นออกมาเป็นลักษณะไหน ซึ่งในส่วนของโซฟานั้นก็มีรายละเอียดปลีกย่อยแยกออกไปทั้งเรื่องของสไตล์และวัสดุ แต่สิ่งที่เราอยากเน้นย้ำในเรื่องของการซื้อโซฟาและเก้าอี้รวมถึงการจัดที่นั่งก็คือขนาดพื้นที่ที่โซฟานั้นจะครอบคลุมในห้องนั่งเล่น ซึ่งไม่ควรใหญ่จนเกินไป อย่างน้อยควรเผื่อพื้นที่รอบๆ (ในกรณีที่คุณจัดโซนที่นั่งไว้ตรงกลางห้อง)

สไตล์ของห้อง 
เวลาเราตกแต่งภายในบ้านของเราเอง (ในกรณีที่ไม่ได้จ้างนักออกแบบตกแต่งภายในมืออาชีพ) การจัดบ้านทั้งหลังให้อยู่สไตล์และรูปแบบเดียวกันคือแนวความคิดหลักที่ทุกคนต่างคุ้นเคยกันดี ไม่เว้นกับห้องนั่งเล่นเช่นเดียวกัน แถมในบางครั้งเมื่อบ้านคุณมีห้องนั่งเล่นเป็นจุดเด่นที่สุดของบ้าน คุณอาจแต่งบ้านทั้งหลังจากสไตล์ของห้องนั่งเล่นเป็นหลักด้วยซ้ำไป คุณอาจแต่งห้องนั่งเล่นให้สะท้อนรสนิยมของคุณ แต่งให้เหมาะกับการใช้งานเป็นหลัก หรือแต่งห้องนั่งเล่นให้แตกต่างจากบ้านทั้งหลังให้เป็นที่ๆจะเปลี่ยนอารมณ์คุณเมื่อก้าเท้าเข้าสู่ห้องนั่งเล่นก็ยังได้

การดูแลรักษาและการทำความสะอาด 
อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าห้องนั่งเล่นนั้นเป็นหน้าตาของบ้านเพราะเป็นห้องที่แขกและคนภายนอกจะได้ใช้เวลากันมากที่สุด การมีห้องนั่งเล่นที่สะอาด บรรยากาศดี ดูแล้วสบายตา นั่งแล้วสบายใจคือสิ่งสำคัญ แม้กระทั่งครอบครัวของคุณเอง หลายครอบครัวประสบปัญหานี้อยู่บ้านในการรักษาห้องนั่งเล่นให้สะอาดอยู่เสมอ ด้วยความที่เป็นสามัญที่ทุกคนต้องเข้ามาใช้งาน ห้องนั่งเล่นจึงมีโอกาสที่จะรกรุงรังและสกปรกได้อยู่เสมอ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกเล็ก การเก็บบ้านให้สะอาดตลอดเวลาทำเอาคุณแม่บ้าน พ่อบ้านปวดหัวไปตามๆกัน ลองทำห้องนั่งเล่นให้ว่าง และกำจัดของใช้ที่ไม่จำเป็นออกไปให้หมด การทำความสะอาดจึงง่ายขึ้น และไม่ทำให้คุณรู้สึกเบื่อจนพาลไม่อยากจับไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่น

ความสว่างและหลอดไฟที่พอเหมาะ 
เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่ถูกละเลยบ่อยครั้งกับความสว่างและระบบไฟของห้องนั่งเล่น ก่อนจะติดตั้งไฟ คุณควรเลือกความสว่างของหลอดไฟและโทนสีที่ถูกต้อง เหมาะสมกับการใช้งาน คำนึงถึงความสว่างจากแสงอาทิตย์ภายนอกตลอดวันว่าส่งผลกับห้องนั่งเล่นอย่างไร และอย่าลืมเลือกใช้หลอดไฟประหยัดไฟเพื่อประหยัดเงินในระยะยาว

ม่านและผ้าม่านสำหรับห้องนั่งเล่นของคุณ 
เสร็จจากไฟแล้ว มาต่อกันที่ผ้าม่าน อีกหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญสำหรับห้องนั่งเล่นของคุณ นอกจากหน้าที่ของผ้าม่านเอาไว้บังแดด บังสายตา สร้างความเป็นส่วนตัวจากภายนอกแล้ว ผ้าม่านยังสามารถกำหนดแนวทาง ดีไซน์และสไตล์ของห้องนั่งเล่นได้ ด้วยขนาดที่ใหญ่และปกคลุมบางส่วนของห้องนั่งเล่น เราจึงสามารถใช้ผ้าม่านสร้างลูกเล่นทางสายตาได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น การติดผ้าม่านยาวสีขาวหรือสีสว่างที่ไร้ลวดลายตั้งแต่เพดานจรดพื้นจะช่วยทำให้ห้องนั่งเล่นของคุณดูกว้างขึ้น หรือคุณสามารถเลือกใช้สีที่คุณชอบแต่งผ้าม่านเป็นจุดหลักของทั้งห้องก็ยังได้ ลองเลือกใช้ผ้าม่านกันแดดในกรณีที่ห้องนั่งเล่นของคุณนั้นหันไปทางทิศแดดในช่วงบ่ายจะช่วยทำให้ห้องนั่งเล่นไม่ร้อนเกินไป และช่วยประหยัดไฟฟ้า ช่วยรักษาอุณหภูมิในห้องและผ่อนแรงเครื่องปรับอากาศ

กระจก 
พูดถึงเรื่องขนาดของห้องนั่งเล่นกับการใช้ผ้าม่านแล้ว กระจกก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่น่าสนใจ เพราะนอกจากประโยชน์ของกระจกปกติแล้ว กระจกยังช่วยสร้างความรู้สึกทางสายตาในห้องนั่งเล่นของคุณให้ดูกว้างขึ้น เลือกติดตั้งกระจกของคุณในห้องนั่งเล่นบนผนังหรือในจุดที่ถูกต้อง เช่นผนังหลังโซฟา หรือที่มุมห้องด้านใดด้านหนึ่ง ในปริมาณที่พอดี หรือหากคุณอยากดีไซน์ห้องนั่งเล่นของคุณด้วยธีมหลักกับกระจกก็ไม่ผิดกติกา

ชั้นวางโทรทัศน์ 
อีกหนึ่งกิจกรรมที่เราคุ้นเคยและทำกันเป็นประจำในห้องนั่งเล่นก็คือการล้อมวงนั่งดูรายการโปรดหรือภาพยนต์ที่คุณและครอบครัวชื่นชอบ รวมไปถึงการเล่นเกมหรือใช้เป็นหน้าจอสำหรับต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณ โทรทัศน์จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าจำเป็นที่ทุกบ้านต้องมีไว้ในห้องนั่งเล่น เมื่อมีโทรทัศน์แล้ว ชั้นวางและเคาน์เตอร์มัลติมีเดียจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้อีกเช่นเดียวกัน ตำแหน่งปกติที่คนทั่วไปมักจะวางโทรทัศน์ก็คือชิดผนังห้องนั่งเล่นมุมใดมุมหนึ่งตรงข้ามกับโซฟาหรือเก้าอี้ ปัจจุบันนี้มีชั้นวางทีวีและวิธีการตั้งทีวีมากมายหลากหลาย ทั้งชั้นแบบปกติธรรมดา หรือชั้นแบบโมดูล่าร์ที่เลือกปรับได้ตามใจ หรือจะเป็นการติดชั้นลอยรับกับทีวีจอแบนที่เจาะติดกับผนังเช่นเดียวกัน ทำให้คุณประหยัดพื้นที่และใช้ผนังให้เป็นประโยชน์

พรม โคมไฟระย้า แจกัน 
ส่วนประกอบอื่นๆที่จะทำให้ห้องนั่งเล่นของคุณครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก็คือส่วนประกอบเล็กๆน้อยๆทั้งพรม โคมไฟ แจกันที่จะประดับตกแต่งห้องนั่งเล่นให้ดูดีมีชีวิตชีวา ที่สำคัญที่สุด ห้ามนึกถึงแต่เรื่องของการตกแต่งแต่เพียงอย่างเดียว ฟังก์ชั่นและประโยชน์ใช้สอยต้องมีด้วย หากที่บ้านคุณเป็นพื้นไม้ที่ขัดมันอย่างสวยงาม การปูพรมก็อาจจะไม่จำเป็น หรือถ้าหากบ้านคุณมีเพดานที่ไม่สูงนัก การติดโคมไฟระย้าในห้องก็อาจทำให้ห้องดูเตี้ยและตัน จนทำให้รู้สึกอึดอัดยิ่งกว่าเดิม

ต้นไม้ ดอกไม้ 
ท้ายสุด สีเขียวและความร่มรื่นของธรรมชาติช่วยให้ผู้คนรู้สึกดีเสมอ การตกแต่งห้องนั่งเล่นด้วยต้นไม้ ดอกไม้ที่คุณหรือครอบครัวชื่นชอบจึงเป็นอีกส่วนที่จะช่วยทำให้ห้องนั่งเล่นของคุณยิ่งดูดีขึ้นไป หากคุณไม่อยากเสียเงินในการซื้อดอกไม้ การใช้ต้นไม้ที่โตได้ดีและไม่ต้องการแดดมากนักก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

ห้องนั่งเล่นและโต๊ะกินข้าว

ห้องนั่งเล่นและโซนทานข้าว นับเป็นหนึ่งในเทรนด์การแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมในสมัยนี้ เพราะในปัจจุบันหน่วยของครอบครัวและสมาชิกในบ้านที่มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ขนาดของบ้านและที่อยู่อาศัยในก็เล็กลงด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ทเมนต์ การทำทุกพื้นที่ในบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุดแบบแนวคิดนี้จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจ ห้องนั่งเล่นและห้องกินข้าวจึงกลายเป็นสเปซสองส่วนที่อยู่ใกล้ชิดกัน บางบ้าน ผนวกรวมเอาห้องทั้งสองไว้ในที่เดียวจนแทบแยกไม่ออก เมื่อพูดถึงโซนทานข้าวแล้ว ห้องครัวก็ตามมาติดๆ เพราะเหมือนเป็นห้องที่ใช้งานต่อกันหรือร่วมกันอย่างแยกไม่ออก ห้องนั่งเล่นของคุณจะใช้งานได้สะดวกสบายพร้อมกับโซนกินข้าวได้อย่างไร เราลองไปรายละเอียดด้านล่างกันได้เลย

ขนาดของห้องนั่งเล่นและโซนกินข้าว 

ขนาดเป็นประเด็นแรกเลยที่เราต้องนึกถึงเมื่อตัดสินใจจะวางผังภายในให้บ้าน และเมื่อห้องนั่งเล่นของคุณคือโวนกินข้าวด้วยแล้วสัดส่วนที่ถูกต้องคือสิ่งที่ต้องนึกถึง ทั้งสองส่วนนี้อาจใช้งานร่วมกันได้หรือแยกกันตามแต่ขนาดพื้นที่ที่คุณมี ลองคำนวณจำนวนสมาชิกในบ้านและจำนวนครั้งการใช้งานโซนกินข้าวของคุณ เช่นการกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาอาจเกิดขึ้นเพียงสัปดาห์ละครั้ง โซนกินข้าวของคุณจึงไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ และควรจะปรับเปลี่ยนได้ง่ายดายเมื่อคุณอยากใช้งานอย่างอื่น

สไตล์ที่ใช่สำหรับทั้งสองส่วน ทั้งนั่งเล่นและกินข้าว 

สไตล์และดีไซน์ของทั้งส่วนควรจะเข้ากันและไปด้วยกันได้ คุณอาจเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ หรือรายละเอียดตกแต่งให้ไปในทางเดียวกัน ทั้งนี้รวมไปถึงโซนของห้องครัวด้วยให้ดูไม่สะดุดตาและทำให้ภาพรวมการตกแต่งภายในออกมาดูดี

ยกพื้นสร้างสัดส่วนของโต๊ะกินข้าว 
บางครอบครัวอาจต้องการแบ่งพื้นที่โซนของโต๊ะกินข้าวให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น การยกพื้นสร้างสเปซส่วนตัวเฉพาะให้กับโต๊ะกินข้าวนั้นเป็นอีกหนทางหนึ่งที่คุณอาจลองพิจารณาได้ แต่สำหรับครอบครัวไหนที่มีลูกเล็กหรือมีผู้สูงอายุอยู่อาศัยในบ้านด้วย การที่พื้นในบ้านมีส่วนที่ต่างระดับกันนั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาได้

โต๊ะกินข้าวที่อยู่ตรงกลางระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องครัว
เมื่อมีโต๊ะกินข้าวแล้ว หากไม่พูดถึงห้องครัวก็คงจะเป็นเรื่องแปลกประหลาด ห้องครัวแบบเปิดนั้นเหมาะมากกับการจัดโต๊ะกินข้าวและห้องนั่งเล่นให้เชื่อมต่อกัน นอกจากการใช้งานที่สะดวกเมื่อคุณทำกับข้าวแล้ว ยังทำให้บ้านดูกว้าง มีสเปซที่น่าสนใจ แต่สิ่งที่คุณควรคำนึงถึงคือเรื่องกลิ่นและควันที่จะส่งผลระยะยาว กลิ่นติดห้องติดโซฟาและหมอนรวมถึงผ้าม่าน โดยเฉพาะการทำอาหารไทยและอาหารจีน เครื่องดูดควันและระบบระบายอากาศจึงต้องทำงานได้ดีหรือทางที่ดีที่สุดควรมีครัวไทยนอกบ้านเสริมสำหรับการทำอาหารกลิ่นแรงดังที่กล่าวไปข้างต้น

จัดและตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่นของคุณอย่างไรดี?

หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็ยังปวดหัว ไม่รู้จะจัดการกับห้องนั่งเล่นของตัวเองให้สวยงามน่านั่งเล่นอย่างที่ว่าไว้ข้างต้น เพราะห้องนั่งเล่นของตัวเองนั้นเล็กเหลือเกินจนแทบจะเรียกเป็นห้องไม่ได้เสียด้วยซ้ำ อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะยังพอมีทางแก้ เราสามารถปรับและจัดการกับข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ได้ด้วยทริคและเกร็ดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้

ก่อนอื่นลองด้วยวิธีที่สามัญที่สุดคือจัดโซฟาไว้ตรงกลางและเผื่อพื้นที่ในการเดินรอบๆให้มากที่สุดด้วยการนำสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากห้องหรือคุณสามารถจัดโซฟาชิดมุมหนึ่งมุมใดในห้องหากพื้นที่ส่วนนั้นไม่ใช่พื้นที่สัญจรในบ้าน

หากคุณมีห้องนั่งเล่นที่ไม่เล็กจนเกินไปทีม  สัมมนานายหน้า  จึงลองจัดเก้าอี้ด้านตรงข้ามโซฟาและจัดโต๊ะกลางเล็กๆซักตัว สร้างบรรยากาศในการสนทนาได้อีกเยอะเลย

ความสว่างในห้องก็สำคัญ ที่จะสร้างความรู้สึกทางสายตาได้ว่าห้องนั้นมีขนาดเล็กหรือใหญ่ ไม่ควรจะสว่างเกินไปจนเห็นรานยละเอียดทุกสัดส่วน และก็ไม่ควรจะมืดจนเกินไปจนกลายเป็นห้องนอน

จุดที่ตั้งวางทีวีหรือโซนมัลติมีเดียในห้องนั่งเล่นของคุณนั้น ถ้าผนังคุณแข็งแรงพอ การสร้างชั้นและแขวนทีวีไว้กับผนังก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่น่าสนใจ แถมเฟอร์นิเจอร์ชั้นลอยนั้นก็สามารถหาซื้อได้ในท้องตลาดในราคาที่ไม่แพง และมีแบบและสีให้เลือกมากมาย

ลองปรับเปลี่ยนที่ตั้งของเฟอร์นิเจอร์ของคุณเป็นครั้งคราว ที่ทีม  สัมมนานายหน้า ได้สร้างความแปลกใหม่ไม่ให้น่าเบื่อ ฉะนั้นแล้ว การใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ตายตัว น้ำหนักเบาและราคาประหยัดจึงเป็นสิ่งที่คุณควรนึกถึงเมื่อคิอจะซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้ห้องนั่งเล่นของคุณในครั้งต่อไป

 

นายหน้าขายบ้าน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *