ตัวแทนอสังหา เคล็ดลับแบบไม่ลับ ช่วยให้อ่างล้างจานกลับมาสวยปิ๊งเหมือนใหม่

ตัวแทนอสังหา เคล็ดลับแบบไม่ลับ ช่วยให้อ่างล้างจานกลับมาสวยปิ๊งเหมือนใหม่

วันนี้แอดมิน ตัวแทนอสังหา มาพร้อมกับเคล็ดลับการทำให้อ่างล้างจานภายในบ้านที่ถูกใช้ล้างจาน ชามเปื้อนอาหารเป็นประจำ มักเต็มไปด้วยความสกปรกต่างๆ ที่ทำให้อ่างล้างจานเกิดคราบไม่สวยงาม และไม่ถูกสุขอนามัยเท่าที่ควร กลับมาใสกริ๊งอีกครั้ง

ดังนั้น การหมั่นทำความสะอาดอ่างล้างจานเป็นประจำ ตัวแทนอสังหา ก็สามารถเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับพื้นที่ภายในบ้านได้มากขึ้น จึงนำเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับการทำความสะอาดอ่างล้างจานให้ใสปิ๊งเหมือนใหม่อยู่เสมอด้วยเคล็ดลับดีๆ ที่เรานำมาฝากกันคะ..

ตัวแทนอสังหา

ขัดทำความสะอาดอยู่เสมอ

การทำความสะอาดอ่างล้างจานในห้องครัวด้วยน้ำเปล่าจากการล้างจานในแต่ละครั้งเพียงอย่างเดียวนั้นอาจไม่เพียงพอ เพราะอ่างล้างจานจะเต็มไปด้วยการสะสมคราบเศษอาหาร และคราบน้ำยาล้างจานต่างๆ อยู่ จึงควรทำความสะอาดบริเวณอ่างล้างจานด้วยน้ำยาทำความสะอาดคราบสกปรก หรือผสมน้ำยาล้างจานทำความสะอาดพร้อมกับการใช้น้ำอุ่น และใช้วิธีขัดทำความสะอาดเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้อ่างล้างจานเกิดคราบสะสมจนทำความสะอาดยาก และกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคต่างๆ ที่ส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพในอนาคต

บอกลาอ่างที่ขุ่นมัว

นอกจากการทำความสะอาดอ่างล้างจานในห้องครัวให้สะอาด ปราศจากคราบสกปรกแล้ว อ่างล้างจานที่ดูสวยงามและน่าใช้งานยังควรมีความมันวาวและใสปิ๊งอยู่เสมอ ซึ่งหลายๆ บ้านอาจพบกับปัญหาที่ว่า ขัดล้างทำความสะอาดแล้วแต่อ่างล้างจานยังไม่ใสเหมือนใหม่ forfur จึงขอแนะนำว่าควรใช้กระดาษทิชชูสำหรับทำความสะอาดมาซับน้ำมัน พร้อมนำไปเช็ดทำความสะอาด หรืออาจชุบผสมกับสารฟอกขาวแล้วนำไปวางแปะทิ้งไว้ให้ทั่วบริเวณอ่างล้าง โดยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วค่อยนำกระดาษออก จากนั้นค่อยใช้น้ำล้างอ่างให้สะอาด แต่หากเป็นอ่างล้างจานที่มีสีต่างๆ นอกจากสีขาว แนะนำว่าควรใช้ผงซักฟอก น้ำส้มสายชู ผสมกับเบกกิ้งโซดาในการเช็ดทำความสะอาดแทน เพราะจะไม่ทำให้สีสวยๆ ของอ่างล้างจานหลุดลอกคะ

ตัวแทนอสังหา
พิชิตคราบฝังแน่นด้วยเบกกิ้งโซดา

อ่างล้างจานส่วนใหญ่มักจะผลิตจากวัสดุประเภทอะคริลิค หรือสเตนเลส ซึ่งค่อนข้างมีพื้นผิวที่บอบบาง การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ปลอดภัยและไม่รุนแรง รวมถึงการขัดทำความสะอาดด้วยอุปกรณ์ที่มีความอ่อนโยนอย่าง ฟองน้ำชุบน้ำยาล้างจานหรือน้ำสบู่อ่อนๆ แทนการขัดทำความสะอาดด้วยแปรงก็จะช่วยถนอมพื้นผิววัสดุของอ่างล้างจานไม่ให้สึกหรอได้ดี แต่หากเป็นคราบฝังแน่นที่มีการสะสมมานานและยากต่อการทำความสะอาด แนะนำให้ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำในปริมาณเล็กน้อย จากนั้นนำไปป้ายบริเวณคราบสกปรกที่ติดกับอ่างล้างจาน แล้วทิ้งไว้ 5 นาที ตามด้วยการใช้ฟองน้ำขัดทำความสะอาด และล้างออกด้วยน้ำเปล่า เพียงเท่านี้ก็สามารถขจัดคราบสกปรกที่ฝังแน่นให้หลุดออกได้อย่างง่ายดาย

อ่างล้างจานสะอาดใสด้วยมะนาว

อีกหนึ่งเคล็ดลับการทำความสะอาดที่สามารถเปลี่ยนอ่างล้างจานให้สวยปิ๊งได้ คือการใช้ผักสวนครัวที่คุณมีอยู่ภายในบ้านอย่างมะนาวในการทำความสะอาด เพียงแค่นำผงบอแรกซ์ประมาณครึ่งถ้วยผสมกับน้ำมะนาวเล็กน้อย แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นให้นำฟองน้ำชุบส่วนผสมที่เตรียมไว้แล้วนำไปเช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกบริเวณอ่าวล้างจานให้ทั่ว ก็จะช่วยทำความสะอาดคราบต่างๆ บริเวณอ่างล้างจานให้สะอาดใสปิ๊งเหมือนใหม่ได้ โดยไม่ทำลายพื้นผิวอ่างล้างจาน

สำหรับใครที่อยากทำความสะอาดทุกวัน

การเลือกใช้สบู่อ่อนและฟองน้ำไนลอนหรือผ้านุ่มชุปส่วนผสมเหล่านี้แล้วเช็ดในอ่างล้างจานของคุณก็ย่อมได้นะคะ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารฟอกขาวเพราะว่าสารฟอกขาวจะทำให้วัสดุภายในซิงค์เสื่อมคุณภาพลงอย่างสิ้นเชิงค่ะ
ขั้นตอนแรกให้คุณล้างอ่างล้างจานด้วยน้ำสะอาด โดยพยายามเอาเศษอาหารออกให้หมด ไม่ว่าจะเป็นเศษเนื้อสัตว์ เศษผัก ผลไม้ หรือข้าวเพื่อป้องกันท่ออุดตัน จากนั้นโรยเบกกิ้งโซดา เกลือ น้ำมะนาว และน้ำแข็งลงไปทิ้งไว้สักครู่ แล้วล้างออกให้สะอาด แล้วจึงนำผ้าขนหนูที่ชุบน้ำส้มสายชูเป็นเวลา 20 นาทีเช็ดลงไปในอ่างล้างจานให้ทั่ว สุดท้ายล้างด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจาน ตามด้วยน้ำสะอาด

 

เพียงเท่านี้ อ่างล้างจานก็จะสวยงามเหมือนใหม่และดูน่าใช้งานอยู่เสมอ อีกทั้งยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ นายหน้าอสังหากรุงเทพ ให้พื้นที่ภายในห้องครัวดูสะอาดและถูกสุขอนามัยในการประกอบอาหารอีกด้วยคะ

 

 

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *