สวัสดีทุกท่านวันนี้เรากลับมาพบกับเว็บ สัมมนานายหน้า กันอีกครั้งในครั้งก่อนเราได้ กล่าวถึงกระเบื้องประเภทต่างๆที่เรามีให้เลือกใช้ซื้อหา กันไปแล้ว
ในบทความก่อนนี้เราได้พูดถึงกระเบื้องแต่ล่ะแบบที่เราสามารถนำมาปูพื้นได้ กันไปแล้วว่ามีอะไรบ้าง และ แตกต่างกันอย่างไร และ ในวันนี้ทางเว็บ สัมมนานายหน้า จะมาบอกให้ทุกท่านฟังว่า แต่ล่ะแบบนั้น แตกต่างกันอย่างไร
โดย กระเบื้องนั้น เรามักจะเน้นนำมาปูพื้น กันส่วนมาก เพราะนอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ยังคงทน และไม่ต้องดูแลรักษากันมาก โดยปกติแล้วกระเบื้องที่เป้นลวดลายนั้น จะมีการเคลือบมาแล้วหนึ่งชั้น เพราะ เอาไวป้องกันการเกิดริ้วรอยขีดข่วน ไม่ว่าจะมาจากการลากของผ่าน หรือ การขัดถูของอุปกรณ์ทำความสะอาดก็ตาม
กระเบื้องแบบเซรามิค
กระเบื้องแบบเซรามิคเป็นกระเบื้องที่ผ่านการเผา 1 หรือ 2 ครั้ง และนำเอามามาขึ้นรูปจากนั้นจึงทำการเคลือบผิวเพื่อทำให้เกิดลวดลายของกระเบื้องที่สวยงาม เป็นกระเบื้องที่มีขนาดอย่างหลากหลายและมีโทนสีสไตล์ต่างๆให้เลือกใช้มากที่สุด สามารถใช้เพื่อตกแต่งบ้านได้ง่ายและสะดวก เมื่อทำการเคลือบเงาแล้วจะมีความสวยงาม ปูพื้นในห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ได้เป็นอย่างดี
กระเบื้องโมเสค
กระเบื้องแบบโมเสคเป็นกระเบื้องชิ้นเล็กๆ ที่มาติดกันบนแผ่นตาข่ายรองรวมออกมาเป็นกระเบื้องแผ่น มีสีสันที่สวยงาม กันน้ำได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือด้วยความที่เป็นแผ่นเล็กๆมาติดกันจึงทำให้มีร่องให้น้ำไหลผ่านเป็นจำนวนมากซึ่งข้อดีคือช่วยในการไหลของน้ำได้ ทำให้กระเบื้องโมเสคจึงเหมาะกับการไปติดในห้องน้ำและพื้นที่มีขนาดเล็กรวมถึงโค้งมนเช่นสระว่ายน้ำ
กระเบื้องแกรนิตโต้
ชนิดกระเบื้องต่อมาก็คือกระเบื้องแกรนิตโต้ซึ่งเป็นกระเบื้องที่มีการผลิตโดยการนำเอาผงของหินแกรนิตมาผ่านกระบวนเผาด้วยความร้อนสูงแล้วขึ้นรูปเป็นแผ่นกระเบื้อง กระเบื้องแกรนิตโต้มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้กระเบื้องแกรนิตโต้มีสีสันและขนาดให้เลือกอย่างหลากหลาย ราคาของกระเบื้องแกรนิตโต้จะขึ้นอยู่กับคุณภาพซึ่งจะแตกต่างกันไปจากส่วนผสมทั้งความคงทนและความสวยงาม ผู้ผลิตบางรายอาจจะมีการใส่ปริมาณผงแกรนิตที่แตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับสูตรในการผลิต ทำให้กระเบื้องแกรนิตโต้นั้นมีเกรดคุณภาพและราคาก็จะขึ้นอยู่กับคุณภาพและกระบวนการผลิตนี้ด้วย
กระเบื้องหินอ่อน
ถ้าพูดถึงความสวยงามและความหรูหราแน่นอนว่าประเภทกระเบื้องที่จะโผล่ขึ้นมาในความคิดของหลายๆคนก็คือกระเบื้องหินอ่อน สาเหตุนั่นก็เป็นเพราะว่าชนิดกระเบื้องแบบนี้มีความสวยงามและมีความทนทานที่ดีมากๆ เป็นกระเบื้องที่สามารถตกแต่งสถานที่ให้มีความสวยงามและดูหรูหราขึ้นมาได้เป็นอย่างมหัศจรรย์ เมื่อผ่านการเคลือบเงาแล้วจะมีความสวยงามสามารถและกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ประเภทกระเบื้องแบบนี้จึงสามารถนำไปปูพื้นในห้องต่างๆได้อย่างหลากหลาย กระเบื้องปูพื้นแบบหินอ่อนเหมาะสำหรับคนที่หลงใหลและชอบในหลายของหินอ่อน เพราะให้ความรู้สึกหรูหรา สวยงามมีระดับ และอีกหนึ่งจุดเด่นของกระเบื้องหินอ่อนคือให้ความเย็นที่สามารถสัมผัสได้เวลาเหยียบลงไป หรือ เวลาที่ผู้อยู่อาศัยอยู่ในห้อง
กระเบื้องดินเผา
กระเบื้องแบบดินเผาเป็นอีก 1 รูปแบบกระเบื้องที่มีความสวยงามและมีความคลาสสิค กระเบื้องดินเผาเป็นการผลิตและขึ้นรูปโดยผ่านการเผาด้วยความร้อนและเทคนิคแบบดั้งเดิม ทำตัวกระเบื้องให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ กระเบื้องดินเผามีทั้งแบบเคลือบเงาและไม่เคลือบเงาเหมาะกับงานตกแต่งสไตล์ธรรมชาติ
กระเบื้องแก้ว
กระเบื้องแบบแก้วเป็นกระเบื้องที่ทำการขึ้นรูปจากชิ้นแก้วมารวมกันเป็นแผ่นกระเบื้อง ภายในตกแต่งด้วยลวดลายที่สวยงามเช่น ลวดลายพิมพ์ หรือตกแต่งสีสันลวดลายภายใน ทำให้ลวดลายภายในอยู่ทนทานกว่าลายพิมพ์บนพื้นผิวหน้าอย่างกระเบื้องประเภทอื่นๆ
ทั้งหมดนี้เป็น 6 ประเภทที่ทางเว็บ อบรมนายหน้าอสังหาฯ นำมาจัดเป็นกลุ่มใหญ่ๆของกระเบื้องปูพื้นโดยการจำแนกจากวัสดุและกระบวนการผลิตที่ผลิตขึ้นมาเป็นประเภทกระเบื้องแบบต่างๆ เมื่อเข้าใจประเภทต่างๆของกระเบื้องปูพื้นที่อยู่ในบทความนี้แล้ว
รู้ว่าแต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร รู้ว่าควรจะใช้งานกระเบื้องประเภทไหนในสถานการณ์แบบไหน ก็จะทำให้สามารถเลือกซื้อกระเบื้องปูพื้นที่เหมาะสมกับลักษณะในการใช้งานได้
เพราะอย่างที่ได้บอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ถ้าหากเลือกซื้อชนิดกระเบื้องที่ผิดกับงานก็อาจจะทำให้ต้องเสียเงินเวลาและเงินจำนวนมากในการแก้ไข กระเบื้องบางแผ่นเวลารื้อออกมาจากแล้วอาจจะเสียหายได้
ทำให้ไม่สามารถนำกลับไปติดซ้ำได้อีก จึงต้องระวังให้ดี วิธีการหนึ่งที่จะตัดปัญหาตั้งแต่ต้นก็คือการศึกษาประเภทกระเบื้องให้ถ่องแท้ตั้งแต่แรก จะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *