ระหว่าง เครื่องดูดควัน VS พัดลมระบายอากาศ มีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร

ระหว่าง เครื่องดูดควัน VS พัดลมระบายอากาศ มีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร

สวัสดีทุกท่านวันนี้เรากลับมาพบกันอีกแล้ว ในวันนี้เรามีบทความดีดีเกี่ยวกับ เครื่องดูดควัน และ พัดลมระบายอากาศ ว่าแต่ล่ะแบบ มีความแตกต่างกันอย่างไร

ในปัจจุบัน ทุกบ้านที่อาศัยอยู่นั้นมักจะมีห้องครัวและ พัดลมระบายอากาศ  ไม่เว้นแม้แต่ ห้องเล็กๆอย่างอพาร์ทเม้นท์ หรือ คอนโด ซึ่งการทำกับข้าวทานเองในบ้านนั้น ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่คู่กับคนไทยมานาน

เครื่องดูดควัน

 

แต่ในปัจจุบัน ความเป็นอยู่ และ การใช้ชีวิตของคนไทยนั้นแตกต่างไปจากสมัยก่อนค่อนข้างมาก ดังนั้น การจะทำกับข้าวในบ้านอาจจะน้อยลงสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่คนเดียว

และ ด้วยการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในเมืองใหญ่นั้น คนไทยจึงมักจะยอมซื้อข้าวทานเป็นมื้อๆ ดีกว่ามาเสียเวลานั่งทำเองที่บ้าน

แต่สำหรับครอบครัวที่สมบูรณ์ แล้วนั้น สิ่งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะการทำกับข้าวทานเองนั้น นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตแล้วนั้น ยังถือเป็นกิจกรรมร่วมกับครอบครัวอีกด้วย

ถ้าจะให้เปรียบเทียบ ข้าวในปัจจุบัน จานล่ะ 40 – 60 กับข้าวเองก็ถุงล่ะ 40 – 60 เช่นเดียวกัน แล้วถ้าซื้อข้าวเปล่าตะหาก ก็ถุงล่ะ 8 – 12 บาท ในขณะที่ เนื้อสัตว์ 1 กิโล จะตกอยู่ที่ 80 – 140 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าต่างกันมากเพราะ เนื้อสัตว์หนึ่งกิโลกรัมนั้น สามารถทำกับข้าวได้ ทั้งวันหรือสองวันเลยทีเดียว

ในขณะที่กับข้าว 1 ถุง 40 – 60 บาทนั้นทานได้มื้อเดียวเท่านั้น

ซึ่งทำให้ครัวของบ้านนั้นเป็นสิ่งจำเป็น และเมื่อทำกับข้าวก็ต้องมีควัน แล้วตัวควันนี่ล่ะที่จะทำให้ ห้องหรือบ้านของเราอบอวลไปด้วยกลิ่นของอาหาร และ เมื่อมักหมมไปนานๆ อาจจะเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรคก็ได้

หากใครเคยเห็นห้องครัวตามร้านข้างทาง คงจะเห็นว่า มันดำแค่ไหน ส่วนนึงของความสกปรกนั้นไม่ใช่มาจากน้ำมันหรืออะไร แต่มาจากควันที่ประกอบอาหารด้วย

ดังนั้น เครื่องดูดควัน หรือพัดลมระบายอากาศ จึงกลายมาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยในจุดนี้ได้ แต่ ก่อนเราจะมาพูดกันว่าแบบไหนดีกว่ากันเรามาดู ความสามารถของแต่ล่ะแบบกันก่อนดีกว่า

พัดลมระบายอากาศ

หรือเรียกอีกอย่างว่า “พัดลมดูดอากาศ” เหมาะสำหรับห้องที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หรือค่อนข้างอับอย่างห้องน้ำและห้องครัว ช่วยทำให้กลิ่นไม่พึงประสงค์ระบายออกไปข้างนอกและอากาศภายในหมุนเวียนได้ดีขึ้น โดยพัดลมระบายอากาศจะมีให้เลือกอยู่ 4 ประเภทด้วยกัน คือ

พัดลมระบายอากาศแบบติดผนัง

เป็นพัดลมระบายอากาศที่ใช้ติดผนังห้อง จำเป็นจะต้องเจาะรูที่ผนังเพื่อติดตั้งก่อนการใช้งาน โดยปกติสามารถทำงานได้ทั้งสองระบบไม่ว่าจะเป็นดูดอากาศข้างนอกเข้ามาหรือดูดอากาศข้างในออกไป

พัดลมระบายอากาศแบบติดกระจก

เป็นพัดลมระบายอากาศแบบที่ติดกับกระจกในกรณีที่ไม่อยากจะทุบหรือเจาะกำแพง อาจจะมีน้ำหนักที่เบากว่าแบบแรก เพราะต้องวางอยู่บนตัวกระจก ที่อาจจะบางกว่าผนังมาก

พัดลมระบายอากาศแบบติดฝ้า ไม่ต่อท่อ

เป็นพัดลมระบายอากาศแบบติดฝ้าเพดาน โดยแบบนี้จะไม่ต่อท่อเพื่อส่งอากาศออกไปข้างนอกเท่าไร นัก ไม่แนะนำให้ใช้กับบ้านที่หลังคาไม่มีช่องระบายอากาศ เพราะ ควันอาจจะตีย้อนกลับมาได้

พัดลมระบายอากาศแบบติดฝ้า ต่อท่อ

พัดลมระบายอากาศแบบนี้จะต่างจากแบบต่อท่อตรงที่จะมีต่อท่อส่งออกไปข้างนอก ตัวบ้านหรือห้อง ซึ่ง พัดลมแบบนี้ไม่เหมาะกับการใช้ที่อื่นนอกจากบ้าน เพราะ ถ้าเป็นห้องหรือคอนโด อาจจะต้องเลือกแบบอื่นมาใช้งานแทน

โดยรวมแล้วประโยชน์ของพัดลมระบายอากาศนั้นจะเน้น การถ่ายเทอากาศแบบรวมๆ มากกว่า ซึ่งถ้าเราทำอาหารแล้ว ตัวพัดลมอาจจะระบายอากาศได้ไม่เร็วพอกับควันที่เกิดจากการทำอาหารของเราก็ได้

แต่อย่าเพิ่งตัดสินใจ ในตอนหน้า ทางเว็บ รับสมัครตัวแทนขายบ้าน จะมาพูดถึง เครื่องดูดควันกันต่อ ติดตามอ่านกันได้เลย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *