วันนี้มาพบกับแอดมิน อบรมนายหน้า ว่ากันว่า…การอ่านหนังสือเป็นงานอดิเรกของใครหลายๆคน สำหรับใครที่ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ตามมาทางนี้เลยค่าา
ไม่ได้ชวนมาซื้อหนังสือ แต่วันนี้เราจะชวนมาจัดมุมอ่านหนังสือให้ปังเพื่อให้นั่งอ่านได้นานๆ อบรมนายหน้า จริงอยู่ว่าหนังสือเล่มเดียวจะอ่านตรงไหนก็ได้ แต่จะดีกว่าไหมหากอ่านหนังสือมาพร้อมบรรยากาศผ่อนคลาย และมีแสงสว่างที่เพียงพอ เพื่อช่วยรักษาดวงตาของเราให้อยู่คู่กับเราไปอีกนานแสนนาน ลดความเมื่อยล้าจากการจ้องตัวหนังสือนานๆได้อีกด้วยหากบ้านที่มีห้องว่าง ก็สามารถตกแต่งเป็นห้องสมุดเล็กๆ ภายในบ้านได้ แต่หากว่าบ้านไหนที่ไม่มีห้องว่าง เนื้อที่มีจำกัดก็สามารถจัดเก็บหนังสือไว้ตามห้องนั่งเล่น ห้องนอน มุมใต้บันไดก็ได้ ตู้หนังสือ ชั้นวางหนังสือติดผนัง จะช่วยในการประหยัดพื้นที่ ทำให้การจัดเก็บไม่ให้เกะกะ ทั้งยังระเบียบเรียบร้อยอีกด้วย จะมีเทคนิคในการตกแต่งภายในมุมอ่านหนังสืออย่างไรบ้างนั้น ไปชมพร้อมๆกัน
เรื่องของแสง
หากพูดถึงเรื่องการอ่าน สิ่งแรกที่สำคัญมากที่สุดคือปริมาณแสงสว่างที่มากเพียงพอ ถ้าคุณอ่านหนังสือในที่มีปริมาณแสงน้อยจะส่งผลให้ดวงตาอ่อนล้า มีอาการปวดศีรษะ อาจส่งผลต่อเนื่องให้เกิดอาการไมเกรน หากสะสมเป็นระยะเวลานานจะส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในอนาคต และที่น่ากลัวสำหรับสาวๆคือทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นบนหน้าโดยเฉพาะบริเวณรอบๆดวงตาโดยที่ไม่รู้ตัว หากไม่อยากมีริ้วรอยก่อนไวอันควร หลีกเลี่ยงแสงน้อยนะคะ
ระวังเรื่องเงากระทบ
หากชอบอ่านหนังสือภายในห้องนอนตำแหน่งของแหล่งกำเนิดแสงควรตั้งเยื้องไปทางด้านหลังของไหล่ด้านซ้ายเล็กน้อยถ้าคุณเป็นคนถนัดขวา และทำตรงกันข้ามหากคุณถนัดซ้ายค่ะ อ่านแล้วอย่าลืมสังเกตว่าแสงจากกระดาษตกกระทบเข้าดวงตาคุณหรือไม่ หากเป็นดังนั้น ลองขยับตำแหน่งการอ่านหรือปรับองศาของโคมไฟ เล็กน้อยก็อ่านได้สบายตาขึ้น ระวังไม่ให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายสร้างเงาอยู่บนหน้ากระดาษ เพราะจะเป็นการบังแสง ทำให้เราปวดศรีษะด้วยค่ะ
หลอดไฟอ่านหนังสือ
หลอดไฟที่ใช้ไม่ควรใช้สีขาวหรือเหลืองเกินไป ควรเลือกใช้หลอดสีนวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนอนหนังสือที่ชอบอ่านบนเตียงในห้องนอน หรือเอนหลังบนโซฟาในห้องนั่งเล่นเป็นประจำควรเลือก โคมไฟ สำหรับอ่านหนังสือโดยเฉพาะซึ่งมีจำหน่ายทั่วไปและมีราคาแพงกว่าเล็กน้อย การอ่านโดยใช้โคมไฟหัวเตียงแม้จะไม่เป็นการรบกวนคนที่อยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่ควรปิดไฟให้มืดสนิทแล้วใช้แสงจากโคมไฟเพียงอย่างเดียว ความเปรียบต่างของแสงในห้องที่มืดสนิทและจากความสว่างจากโคมไฟจะทำให้สายตาต้องทำงานหนัก ควรใช้แสงปริมาณพอเหมาะในห้องด้วยการหรี่ไฟลงเล็กน้อยแล้วเสริมด้วยโคมไฟจะดีกว่าค่ะ การใช้โคมไฟที่ปรับองศาได้ทำให้คุณสามารถกำหนดทิศทางแสงไปยังสิ่งที่คุณกำลังมองอยู่ซึ่งได้ผลดีกว่าไฟเพดาน อีกครั้งยังเป็นการประหยัดพลังงานกว่าด้วย
การนั่งต้องผ่อนคลาย
หลังจากได้แสงดีๆแล้ว อิริยาบถในการอ่านก็สำคัญและมองข้ามไม่ได้ การอ่านที่ดีแขนของคุณควรมีบางสิ่งรองรับไว้เพื่อที่จะสามารถใช้มือพยุงหนังสือเอาไว้ได้ถนัด ไม่นั่งหลังงอหรือก้มตัวไปข้างหน้ามากเกินไป และอย่าลืมบังคับตัวเองให้กระพริบตาบ่อยๆ เพราะเมื่อไรที่สายตาคุณจดจ่อกับสิ่งใดนานๆ อัตราการกระพริบตาจะลดลงโดยคุณไม่รู้ตัว และทุกครั้งที่อ่านหนังสือก็ควรหยุดพักเปลี่ยนอิริยาบถทุก 30 นาที อาการเคือง แสบตา หรือน้ำตาไหล เป็นสัญญาณว่าคุณใช้สายตามากเกินไปหรืออ่านในสภาพแสงไม่เหมาะสมซึ่งควรพักการใช้สายตาทันที
แอดมินแนะนำเพิ่มเติม วิธีบริหารสายตา
ครอบตา – นั่งให้สบาย เท้าข้อศอกบนโต๊ะทำงาน ใช้อุ้งมือทั้งสองปิดครอบดวงตาไว้โดยไม่กดทับดวงตานานประมาณ 10 นาที ระหว่างนี้ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย คิดแต่สิ่งที่สวยงาม ทะเล แมกไม้ ดอกไม้ เป็นต้น
กวาดสายตา – มองไปยังตำแหน่งของวัตถุที่อยู่ไกลตัวหลาย ๆ อย่าง กวาดสายตาไปมาทางโน้นบ้างทางนี้บ้าง เมื่อกลับมาทำงานใหม่จะช่วยให้มองวัตถุที่อยู่ใกล้ชัดเจนขึ้น
ชโลมดวงตา – หลังจากตื่นนอนในตอนเช้าให้หลับตาแล้ววักน้ำอุ่นใส่ตา 20 ครั้ง น้ำเย็น 20 ครั้ง ก่อนนอนให้ทำเช่นเดียวกันแต่สลับทำน้ำเย็นก่อน วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดี
ฝึกโฟกัสใกล้ ไกล – ชูนิ้วชี้ขึ้นทั้งสองข้าง ยกมือข้างหนึ่งห่างจากใบหน้าระดับสายตาประมาณ 3 นิ้ว มืออีกข้างเหยียดออกไปจนสุดแขน เพ่งมองนิ้วชี้ของมือข้างหนึ่งด้วยตาทั้งสอง กระพริบตาแล้วมองอีกข้างสลับกันไปมา เป็นการฝึกปรับตัวของกล้ามเนื้อตา ทำให้แข็งแรงและมองภาพชัดขึ้น
นอกจากนี้ยังควรกระพริบตาบ่อย ๆ เพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้น แก้วตาสะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ ไม่ควรละเลย เพียงเท่านี้เราก็จะอ่านหนังสือได้อีกนานแสนนาน สัมมนาอสังหา โดยไม่เป็นการทำลายดวงตาของเราอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ..
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *