สวัสดีทุกท่าน ในวันนี้ คอร์ส อบรม seo จะมาแนะนำเทคนิคเคล็ดลับดีดี กันอีก ครั้ง โดยในปัจจุบัน โลกออนไลน์มีอิทธิพลอย่างมาก ที่ทำให้ผู้บริโภคมีพลังในการสื่อสารด้วยตนเอง หรือที่เรียกว่า freedom of speech เสรีภาพในการพูด การแสดงออก ไม่ว่าถูกหรือผิด เป็นการสื่อสารความคิดของบุคคลผ่าน Digital ในหลายๆ ช่องทาง ซึ่งช่องทางทั้งหมดออกแบบมาเพื่อผู้บริโภคมากกว่าแบรนด์ ทำให้คนที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากแบรนด์มารวมตัวกัน ซึ่งเราวัดมูลค่าความเสียหายไม่ได้เลย
แต่ถ้าจะวัดจากการเข้าใจจากคอร์ส อบรม seo ว่าจะรู้ถึงมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ไหม ถ้าเป็นสมัยก่อน เมื่อแบรนด์ได้รับผลกระทบจากการออกสื่อทางทีวี อาจจะใช้วิธีแก้ข่าว แต่พอถึงยุคสมัยปัจจุบัน มีความเสียหายที่เกิดขึ้นบนโซเชียลมีเดีย เราวัดระดับความเสียหายไว้หลายๆ ระดับ แต่ระดับสูงสุดคือ การเสิร์ชติดบนกูเกิ้ล มีคำที่ทำให้แบรนด์เสียหายปรากฎขึ้นในหน้าแรก Google
คนที่ทำออนไลน์จะรู้ว่า ถ้าข้อความแบบนี้ ปรากฎใน Google แล้วมันจะเอาลงยากมาก หรืออาจจะต้องใช้กำลังทรัพย์สูงมาก ในฐานนะคนทำแบรนด์จึงต้องชี้แจงกระบวนการนำส่งข้อเท็จจริง ให้กับผู้บริโภครับทราบ ตอกย้ำความเชื่อมั่น และเชื่อถือในแบรนด์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องยากและไม่มีสูตรสำเร็จ
เมื่อวิกฤตเกิดขึ้น สิ่งที่ควรมีในการจัดการวิกฤตินั้น เราจะรับมือกันอย่างไร
1.การเตรียมแผนล่วงหน้าที่ชัดเจน
ทุกแผนต้องมาจากเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้รับข้อมูลอยู่เสมอ มีการลงรายละเอียดในระดับปฏิบัติการเอาไว้ชัดเจน เพื่อให้นำไปใช้ได้ทันทีที่เกิดวิกฤติขึ้น
2.เตรียมผู้ที่จะชี้แจงรายละเอียดไว้เสมอ
เพื่อให้องค์กรสามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก็ควรจะระบุตัวคนที่จะเป็นตัวแทนขององค์กรในการให้ข่าว ตอบคำถามสื่อ ให้สัมภาษณ์
3.ซื่อสัตย์ จริงใจ เปิดใจ
ยิ่งมีกระแสแรงเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เร้าความสนใจของสื่อได้มากเท่านั้น ปัจจุบันนี้พวกนักสืบออนไลน์ทำงาน 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว โอกาสที่จะรอดจากการบิดเบือน ปิดบังมักที่จะเป็นเรื่องยาก เมื่อยิ่งถูกจับโกหกได้ ก็จะยิ่งตีข่าวไปเรื่อยๆ ทั้งโดยสื่อและกลุ่มผู้บริโภค ดังนั้น แบรนด์ควรจะเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความจริงให้มากที่สุด เท่าที่จะเปิดเผยได้ในทุกๆ ช่องทางการสื่อสาร เช่น การให้สัมภาษณ์กับสื่อ โซเชียลมีเดีย และการสื่อสารภายในองค์กร
4.แจ้งให้พนักงานทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
ในระหว่างที่แบรนด์เกิดวิกฤต ต้องให้ข่าวแบบรายชั่วโมง การสื่อสารกับพนักงานก็เป็นเรื่องสำคัญจะทำให้ธุรกิจขององค์กร ดำเนินไปได้อย่างปกติ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระจายข่าวลือภายใน ที่อาจจะทำให้พวกเขาไปโพสต์ อะไรให้องค์กรเสียหายหนักเข้าไปอีก ดังนั้นอย่าปล่อยให้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะระดับหัวแถวขององค์กรเท่านั้น เพราะพนักงานทุกคน คือตัวแทนแบรนด์
5.สื่อสารกับลูกค้าหรือซับพลายเออร์
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่พวกเขาจำเป็นต้องรู้ควรจะมาจากองค์กรของเราเป็นที่แรก ส่วนสำคัญของแผนการสื่อสารในภาวะวิกฤติต้องรวมไปถึงความถี่และข้อมูลที่จะสื่อสารกับลูกค้าและซัพพลายเออร์ด้วย
6.อัปเดตสม่ำเสมอและรวดเร็ว
การสื่อสารให้มากย่อมดีกว่าปล่อยให้ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่ว เราอยู่กันในยุคที่ข้อมูลข่าวสารถูกรับ-ส่งกันตลอด 24 ชั่วโมง แผนจัดการวิกฤติของแบรนด์ บทสรุปจากผู้บริหาร แผนการรับมือและป้องกัน แผนการฟื้นฟู สิ่งเหล่านี้ควรจะถูกอัปเดตให้บ่อยและเร่งด่วนที่สุด
7.ใช้สื่อโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือ
เป็นช่องทางที่มีการสื่อสารมากที่สุด คนเราใช้อินเตอร์เน็ตตลอด 24ชั่วโมง เมื่อเกิดวิกฤตแบรนด์ควรที่จะตั้งทีมดูแลโซเชียลมีเดีย เพื่อโพสต์หรือคุยโต้ตอบกับผู้คนและลูกค้าที่อยู่ในโลกออนไลน์
ดังนั้น คอร์ส สัมมนาการตลาดออนไลน์ อยากจะบอกทุกคนว่า ถ้าเกิดวิกฤติแต่ไม่ได้รับการจัดการที่ดี อาจจะทำลายชื่อเสียงที่แบรนด์สั่งสมมานานภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่หากองค์กรสามารถรับมือรับวิกฤตินั้นได้ดี มันจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าองค์กรมีความสามารถที่จะยืนหยัดและพัฒนาต่อไปได้ในอนาคต อ่านแล้วลองนำไปปรับใช้กับแผนขององค์กรของคุณ เพื่อเตรียมพร้อมกับปรากฏการณ์ Brand Crisis ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่อย่าให้ไปถึงจุดนั้นเลยจะดีกว่า
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *