คอร์ส อบรมการตลาด 2561 เห็นว่าผู้อ่านหลายๆ ท่านที่กำลังทำธุรกิจอยู่นั้นอาจจะสงสัยว่า ทำไมเว็บสวยๆของเรานั้นถึงไม่มีคนเข้าใช้งาน และ ไม่มีแม้แต่ยอดสั่งซื้อสินค้าเท่าที่ควร ทั้งๆที่ลงทุนทำเว็บไปตั้งหลายบาท
คอร์ส อบรมการตลาด 2561 อยากจะบอกว่า ความสวยของเว็บ กับยอดขายนั้น บางทีก็สวนทางกัน ทางแอดมินเคยทำโฆษณา Google ให้กับลูกค้าหลายเว็บไซต์ ที่ลูกค้าเชื่อว่า เว็บตัวเองดูดี จ้างทำในราคาแพง แต่สิ่งที่น้ำพบคือ เว็บเหล่านั้นกลับไม่มียอดขายให้กับเจ้าของเว็บเลย
และเมื่อเป็นเช่นนั้น เราควรทำอย่างไร อย่างแรกเลย เราควรเข้าไปดูข้อมูลสถิติแคมเปญโฆษณาจาก google ดังนี้
1.โฆษณามีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในจำนวนที่มากพอหรือไม่ หรือมีการแสดงผล (Impression) และคลิ๊ก (Clicks) ที่เหมาะสมหรือไม่
2.โฆษณามีอัตราการคลิ๊กที่เหมาะสม หรือที่เรียกว่า CTR (Click-Through Rate) ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานและสามารถตรวจสอบได้เบื้องต้น โดยค่านี้คือเอาจำนวนคลิกหารด้วยจำนวนการแสดงผล ซึ่งตามหลักการทางการตลาด หากมีการคลิกมาก แปลว่าโฆษณาตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งโดยปกติแล้วค่านี้ไม่ควรต่ำกว่า 3-5%
3.มีตำแหน่งเฉลี่ยเหมาะสม (Average Position) โดยปกติไม่ควรอยู่ต่ำกว่าอันดับ 4 เพราะหน้าแรก Google จะแสดงผลทั้งหมด 7 ตำแหน่งคือด้านบน 4 ตำแหน่ง ด้านล่าง 3 ตำแหน่ง ซึ่งตำแหน่งที่สูงขึ้นก็เหมือนทำเลทอง ทำให้คนเห็นได้ง่าย คลิ๊กได้ง่าย
จากสถิติจะพบว่าทุกอย่างดูดีแล้ว ดังนั้นการปรับปรุงแคมเปญโฆษณาจึงไม่ใช่ทางแก้ปัญหา เมื่อมองหาสาเหตุอื่นๆ ทำให้พบว่า สาเหตุหนึ่งมาจากเว็บไซต์ของลูกค้านั่นเอง
สิ่งที่พบคือ
เว็บเหล่านั้นมักจะมีภาพสินค้าที่สวยงาม แต่กลับไม่มีคำอธิบายสินค้าเลย “แตกต่าง” จากเว็บอื่นที่น้ำทำแล้วประสบความสำเร็จ
ลูกค้ากลุ่มนี้มักเข้าใจว่า
ภาพสวย ตัวอักษรน้อย ๆ จะดึงดูดผู้เข้าชมมากกว่า แต่ลืมนึกไปว่า ถ้าผู้เข้าชมอยากซื้อสินค้า ยังไงเค้าก็ต้องอ่านรายละเอียดสินค้าแน่นอน แต่พอไม่มีรายละเอียดก็ทำให้เกิดความลังเลใจในการซื้อสินค้านั้น ๆ
ซึ่งเราสามารถวิเคราะห์สถิติจาก Google Analytics (เครื่องมือในการเก็บข้อมูลคนเข้าเว็บไซต์) เปรียบเทียบกันระหว่างเว็บที่ประสบความสำเร็จและเว็บที่ไม่ประสบความสำเร็จ
ทำให้เห็นความต่าง ดังนี้
1. Page/Session (การเข้าดูหน้าเว็บไซต์ต่อหนึ่งช่วงเวลา)
พบว่าเว็บไซต์ที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ มักมีค่าเฉลี่ยที่ 3 หน้าขึ้นไป ต่างจากเว็บที่ไม่ประสบความสำเร็จมีค่าเฉลี่ยเพียง 1 – 2 หน้า
ตรงนี้อธิบายได้ว่าเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาน่าสนใจจะทำให้คนที่เข้ามาอยากเปิดน่าอื่นๆ ดูต่อ
2. Average Session Duration (ระยะเวลาเฉลี่ยการเข้าชมต่อหนึ่งช่วงเวลา)
เว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จมีระยะเวลาเฉลี่ยในการเข้าชมแต่ละครั้งอยู่ที่ 1 – 2 นาทีขึ้นไป เทียบกับเว็บไซต์ที่ไม่ประสบความสำเร็จนั้นมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ไม่เกิน 30 วินาที
สถิติดังกล่าวสอดคล้องกับหน้าเว็บไซต์อย่างชัดเจน หากเนื้อหาในเว็บไซต์น้อยเกินไป หรือไม่น่าสนใจ คนก็ใช้เวลาดูน้อย
3. Returning Visitor (ผู้ที่เคยเข้าเว็บไซต์แล้วกลับเข้ามาอีกครั้ง)
หากเทียบในธุรกิจเดียวกัน เว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จ มักมีการอัพเดตข้อมูลและเนื้อหาที่น่าสนใจ สินค้ารุ่นใหม่ หรือโปรโมชั่นใหม่ๆ ทำให้มีสัดส่วน Returning Visitor มากว่าเว็บไซต์ที่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะลูกค้าที่เคยเข้ามาเว็บไซต์แล้ว เมื่อกลับมาอีกยังคงเจอเนื้อหาเดิมๆ ก็จะทำให้เนื้อหาไม่น่าสนใจ ไม่ดึงดูดคนให้กลับมา (ยกเว้นธุรกิจที่มีสินค้าหรือบริการที่ราคาสูง หรือต้องอาศัยข้อมูลในการตัดสินใจเป็นระยะเวลานาน จะมีสัดส่วน Returning Visitor สูงอยู่แล้วแม้ว่าจะยังไม่มีการติดต่อเข้าไปจากลูกค้า เช่น ที่ดิน บ้าน รถยนต์)
เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ จะพบว่า
เนื้อหาที่ใส่ในเว็บไซต์มีความสำคัญต่อการสร้างยอดขาย ทั้งข้อความ ภาพ วิดีโอ รวมถึงความคิดเห็นจริงจากลูกค้าคนอื่นๆ
เพราะผู้บริโภคมักหาข้อมูล เปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้อ
ดังนั้นทางเว็บ อบรม seo จึงอยากจะแนะนำว่า นอกจากรูปภาพสวยๆ แล้ว เรายังควรต้องมีเนื้อหาประกอบรูปภาพ และ รีวิวสินค้า รวมถึง ผลจากผู้ใช้จริงเพื่อให้เกิดการบอกต่อและเพิ่มโอกาส การตัดสินใจซื้อสินค้านั้นๆ ด้วย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *