แนวทางการ ทำความสะอาดตู้เย็น ใน บ้าน เพื่อไม่ให้มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์

แนวทางการ ทำความสะอาดตู้เย็น ใน บ้าน เพื่อไม่ให้มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์

เคยไหมเปิด ตู้เย็น ที่ บ้าน ทีกลิ่นกระจายไปทั่วห้อง หากปล่อยทิ้งไว้นานๆ กลิ่นจะยิ่งแรงขึ้น และถ้าแย่หน่อย ของที่ใส่ไว้ในตู้หรือแม้แต่น้ำดื่ม ก็มีกลิ่นเหล่านั้นติดมาจนทำให้ความอร่อย หดหายไปหมด

ในวันนี้เรามีวิธี ทำความสะอาดตู้เย็น และ จัดระเบียบตู้เย็น ของ บ้าน เรา เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในตู้เย็นของเรามาฝากกัน

บ้าน

จัดระเบียบของในตู้เย็น

ของใน ตู้เย็น ที่อยู่คนละทิศละทาง ผักไปรวมกับหมู ขนมไปรวมอยู่กับแกง ดูไม่น่าจะดี ควรแยกตามประเภทของอาหาร ง่ายๆคือดูตามภาพที่ติดไว้กับแต่ละช่องแต่ละชั้นก็ได้ เตรียมกล่องพลาสติกเนื้อหนา

ถ้าจะให้สะดวกเลือกแบบที่มีสีของฝากล่องต่างกัน เป็นการช่วยแยกประเภทอาหารแบบง่ายๆ หรือจะแปะสติ๊กเกอร์เขียนไว้บนกล่องก็หยิบใช้ง่ายดี

ในช่องแช่แข็งที่เก็บของสดก็ไม่ควรใส่ของสดเข้าไปทั้งถุงที่ซื้อมา ให้ใช้พลาสติกแรฟหรือใส่ถุงซิปล็อกก็แล้วแต่สะดวก

หากของสดนั้นมีขนาดใหญ่ ใช้วิธีการแบ่งเป็นชิ้นพอประมาณเป็นมื้อๆแยกไว้ เมื่อนำมาใช้ก็แค่หยิบเฉพาะถุงเล็กๆพอดีมื้อ ช่วยประหยัดเวลารอน้ำแข็งละลาย และทำให้อาหารสดยังสดใหม่อยู่เสมอ

ตรวจสอบ ตู้เย็น อยู่เสมอ

ลองตรวจสอบดูว่ามีน้ำไหลในตู้เย็นบ้างหรือไม่ บางทีอาจเกิดเหตุฉุกเฉินไฟตก ตู้เย็นดับช่วงที่ไม่อยู่บ้านก็ได้

ที่สำคัญมือจับประตูตู้เย็นที่เรามักลืมว่าเป็นจุดรวมเชื้อโรค  ก็ควรถอดไปซักทำความสะอาดบ้าง ใช้ผ้าชุบน้ำผสมน้ำยาล้างจานแบบเจือจางเช็ดทำความสะอาดตู้เย็น ช่วยให้ไม่สะสมคราบสกปรกต่างๆ

ตรวจสอบอาหารที่หมดอายุ

นอกจากอาหารที่ไม่ได้อยู่ในกล่องมิดชิดแล้ว ของหมดอายุก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตู้เย็นมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เนื้อสัตว์เน่าๆแม้จะอยู่ในกล่อง แต่หากมีน้ำซึมออกมา ทีนี้ละเรื่องใหญ่ ในชั้นเก็บผักก็ลองเปิดดูบ้างว่ามีผักอะไรเน่าเสียบ้าง รวมถึงอาหารกระป๋องที่เปิดแล้ว อะไรที่เก็บมานานแล้ว ก็ควรเก็บทิ้ง เพื่อให้ตู้เย็นไม่รกและไร้กลิ่นเหม็น

หมั่นกดปุ่มละลายน้ำแข็ง

หากเป็นตู้เย็นแบบประตูเดียวและไม่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ อาจเกิดน้ำแข็งเกาะติดแน่น ยิ่งมีชั้นน้ำแข็งหนาก็ทำให้ระบบการถ่ายเทความร้อนจากภายในสู่ภายนอกยิ่งแย่ ควรหมั่นกดปุ่มละลายน้ำแข็งเดือนละครั้งหรือสองครั้ง เพื่อให้ตู้เย็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ถอดล้างให้หมด

สุดท้ายในเมื่อตู้เย็นรกและสกปรกเกินเยียวยา ก็ได้เวลาจัดการคืนความสะอาด เริ่มจากกดละลายน้ำแข็ง นำของออกจากตู้เย็นให้หมด แล้วดึงปลั๊กไฟออกด้วย ค่อยๆถอดชิ้นส่วนของชั้นต่างๆออกมาให้หมด ใช้น้ำผสมน้ำสบู่แบบเจือจาง หรือน้ำเปล่าผสมน้ำส้มสายชู หรือน้ำผสมเบกกิ้งโซดา ไม่ควรใช้ผงซักฟอกหรือสารเคมีรุนแรง จากนั้นใช้ผ้านุ่มๆหรือฟองน้ำไล่เช็ดด้านในตู้

ส่วนชั้นและช่องใส่ของนำไปล้างและผึ่งแดดให้แห้ง อย่าลืมเช็ดขอบยางรอบๆ ตู้ด้วยน้ำผสมเบกกิ้งโซดา เพราะเชื้อรามักชอบไปสะสมที่ส่วนนี้ อย่าลืมเช็ดบริเวณภายนอกของตู้เย็นด้วย เมื่อตู้เย็นเริ่มแห้ง ให้ใช้ผ้านุ่มแห้งๆหรือผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดซ้ำอีกครั้ง แล้วจึงประกอบทุกอย่างเข้าที่ เปิดตู้เย็นทิ้งไว้สักพัก ก่อนนำของเก็บเข้าที่ แนะนำให้ทำความสะอาดแบบนี้เดือนละครั้ง

นอกจากวิธีเบื้องต้นเหล่านี้จะที่ช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ของตู้เย็นของเราได้บ้างแล้ว ยังมีเคล็ดลับอื่นๆ ที่จะช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์เหล่านี้ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นถุงชาที่ใช้แล้ว ก้อนถ่าน หรือ กากกาแฟ นำมาใส่ไว้ในตู้เย็นก็จะช่วยดูดกลิ่นเหล่านั้นได้

เพียงคำแนะนำของเว็บ รับสมัครตัวแทนขายบ้าน แค่นี้ตู้เย็นของเราก็จะปราศจากกลิ่นอันไม่ถึงประสงค์ของอาหารในตู้เย็นของเรากันแล้ว หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ในการทำความสะอาดตู้เย็นของทุกท่านกัน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *