6 วิธีเปลี่ยนบ้านแบบทีม สัมมนานายหน้าอสังหา ให้เหมาะกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก

6 วิธีเปลี่ยนบ้านแบบทีม สัมมนานายหน้าอสังหา ให้เหมาะกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก

1. เลือกพื้นที่แบบทีม สัมมนานายหน้าอสังหา และทนทานและทำความสะอาดง่าย
พื้นเป็นส่วนที่น้องหมาน้องแมวเราใช้เดิน นอน นั่ง และทำกิจกรรมต่างๆ ดังนั้นพื้นที่นำมาใช้ในบ้านจึงควรทนทานต่อการใช้งาน และต้องทำความสะอาดง่าย โดยพื้นที่นิยมใช้กันคือ พื้นพรม เพราะช่วยถนอมเท้าให้กับสัตว์เลี้ยงของเรา แต่ต้องยอมรับก่อนว่า พรมจะเป็นตัวสะสมกลิ่นเหม็น ดักขนที่ร่วง และมักจะเปื้อนคราบของเสียจากน้องๆ จอนซนของเราด้วย
ทั้งนี้จึงไม่ควรเลือกพรมแบบที่ราคาแพงเกินไปครับ แบบทีม สัมมนานายหน้าอสังหา  หลีกเลี่ยงการใช้พรมแบบปูเต็มทั้งห้อง แต่เลือกเป็นพรมปูเฉพาะพื้นที่แทน โดยอาจเลือกเป็นพรมสีเข้มเพื่อให้มองเห็นรอยเปื้อนได้ยากขึ้น หรือเลือกใช้เป็นพรมแบบแพทเทิร์นที่เป็นชิ้นเล็กๆ มาต่อกันเป็นพรมใหญ่ก็ได้ ซึ่งหากน้องมาถ่ายของเสียไว้ ก็สามารถถอดพรมแค่ส่วนนั้นไปทำความสะอาดหรือทิ้งได้เลย นอกจากนี้สามารถเลือกพรมจากเส้นใยธรรมชาติแบบ Sisal หรือ Seagrass ที่มีความทนทานต่อการใช้งานและราคาไม่แพงด้วยนะครับ
สำหรับพื้นอย่างอื่น เราแนะนำว่า ควรเลือกใช้พื้นกระเบื้อง เนื่องจากเป็นรอยได้ยาก ทนต่อการขีดข่วนจากเล็บของน้องหมาและแมวได้ อีกทั้งพื้นกระเบื้องจะเย็น เหมาะสำหรับให้สัตว์เลี้ยงนอนเล่นกับพื้นในวันที่อากาศร้อน ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ใช้พื้นหินอ่อนหรือพื้นหินธรรมชาติที่ไม่ได้เคลือบนะครับ เพราะน้ำลายของน้องๆ จะทำให้เกิดรอยคราบด่างได้ หากต้องการใช้พื้นไม้ อาจหลีกเลี่ยงพวกพื้นไม้ลามิเนตหรือแผ่นไม้เนื้ออ่อน เพราะจะทำให้เป็นรอยขีดข่วนจากเล็บของพวกเขาได้ง่าย ควรเลือกเป็นพื้นไม้เนื้อแข็งจะทนทานกว่าครับ

2. เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับสัตว์เลี้ยง
นอกจากการเลือกพื้นแล้ว สัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ยังชอบนั่งและนอนบนเฟอร์นิเจอร์ร่วมกับเราด้วยใช่ไหมครับ ฉะนั้นการเลือกเฟอร์นิเจอร์จึงต้องเลือกให้ทนทานและทำความสะอาดง่าย สำหรับโซฟา เราแนะนำเป็นโซฟาหนังแท้ เนื่องจากมีความทนทาน ขนสัตว์ไม่ติด และทำความสะอาดได้ง่าย แต่อาจจะมีรอยขีดข่วนนิดหน่อยสำหรับเล็บแมว โดยควรเลือกสีให้เข้ากับสีขนของสัตว์เลี้ยงเพื่อให้มองเห็นขนที่ร่วงได้ยากขึ้น
สำหรับที่นอน หากคุณชอบให้น้องหมานอนบนเตียงด้วย ก็ควรเลือกให้นอนบนผ้านวมที่ถอดปลอกได้ และ ใช้สีเข้มหรือลวดลายซ้ำๆ กันเพื่อซ่อนขนที่ร่วง ถ้าเขาอายุมากแล้ว ควรมีบันไดสำหรับขึ้นเตียงให้ด้วย อย่างไรก็ตาม เราไม่ค่อยแนะนำให้คุณนำน้องหมานอนบนเตียงด้วยสักเท่าไหร่นะครับ เพราะตัวคุณเองอาจจะมีอาการแพ้ขนสัตว์ได้หรือ อาจจะมีเห็บติดตัวมาด้วย ดังนั้นอาจจะจัดที่นอนแยกต่างหากให้กับเขาไว้บริเวณปลายเตียงหรือใต้ตู้หัวเตียงแทนก็ดูไม่เลว

3. เก็บของตกแต่งบ้านให้ห่างจากมือสัตว์เลี้ยง
สำหรับใครที่ชอบตกแต่งบ้าน หรือเป็นนักสะสม อาจจะกังวลว่าเจ้าเพื่อนซี้สี่ขาจะทำให้ข้าวของเสียหาย ถ้าต้องการอยู่กับเขาในบ้าน คุณอาจจะต้องเริ่มจากการกำหนดเขตหวงห้าม โดยเฉพาะห้องเก็บของสะสมที่มีราคา แต่สำหรับห้องทั่วไป อาจเลือกแขวนหรือยึดของตกแต่งและกรอบรูปไว้สูงพอที่พวกเขาจะโดดไม่ถึง เลือกใช้ตู้เก็บของที่มีบานประตูปิดทึบ ไม่วางของกระจุกกระจิกไว้บนขอบตู้หรือชั้น เนื่องจากแมวมักจะชอบเดินบนชั้นและชอบที่สูงครับ
อุปกรณ์ทำครัวที่มีคมก็ไม่ควรแขวนไว้ที่สูง แต่ควรเก็บใส่ในลิ้นชักในครัวแทน ส่วนถังขยะควรเลือกแบบที่มีฝาปิดป้องกันน้องๆ มาซุกซน และสำหรับในห้องน้ำ ที่แขวนกระดาษชำระในห้องน้ำควรเลือกแบบที่มีฝาปิด และควรปิดฝาชักโครกหรือถังน้ำทุกครั้ง ป้องกันสัตว์เลี้ยงตกลงไปและจมน้ำได้

4. ทำให้บ้านปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง
คงไม่ดีแน่ถ้าลักษณะบ้านของเรา ทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดอุบัติเหตุ ยิ่งในตอนที่เราหลับ อาจจะทำให้พวกเขาอันตรายโดยที่เราไม่รู้ตัว เราจึงควรเริ่มจากการจัดบ้านให้เรียบร้อย เก็บของที่ตกพื้นขึ้นชั้น ป้องกันสัตว์เลี้ยงเอาไปกัดเล่น ป้องกันจุดอันตรายอย่างพวกหลังตู้เย็นด้วยการหาอะไรมาวางขวางไว้ จัดเก็บสายไฟอย่างเป็นระเบียบและไม่วางปลั๊กพ่วงไว้ใกล้กับพื้นที่ประจำที่เลี้ยงน้องหมาน้องแมว
นอกจากนี้ ยังมีต้นไม้บางชนิดที่ไม่เหมาะกับสัตว์ครับ เนื่องจากอาจจะมีพิษหรือมีหนามแหลมที่เป็นอันตราย อาทิเช่น Lilies, Azaleas, Oleander, Tulips, Yew, Chrysanthemum และ

5. เปลี่ยนโถงทางเข้าบ้าน เป็นห้องของน้องหมา
พื้นที่บริเวณหน้าประตูบ้าน เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์อย่างยิ่งครับ เพราะใกล้กับนอกบ้านและดูแลรักษาง่าย โดยเปลี่ยนวัสดุพื้นเป็นพื้นกระเบื้องที่ทำความสะอาดง่าย ทำชั้นวางของที่เก็บของใช้และอุปกรณ์ดูแลสัตว์เลี้ยงไว้ มีตู้เก็บอาหารสัตว์ที่มีประตูปิด มีที่แขวนสำหรับแขวนผ้าเช็ดทำความสะอาด เปลี่ยนประตูหรือผนังให้มีช่องทางเข้าสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เพิ่มหน้าต่างให้สัตว์เลี้ยงมองเห็นวิวภายนอก จัดหาอุปกรณ์เฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงมาวางไว้ อาทิเช่น เบาะที่นอน ของเล่น ที่ฝนเล็บ และวางถ้วยอาหารและน้ำไว้ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีความคุ้นเคยกับส่วนนี้มากที่สุด แต่ถ้าหน้าประตูบ้านไม่สะดวกอาจเลือกใช้ส่วนที่เชื่อมต่อกับประตูหลังบ้านหรือส่วนทำห้องซักรีดร่วมกับห้องสัตว์เลี้ยงก็ได้นะครับ

6. แต่งบ้านตีมเดียวกับสัตว์เลี้ยง
ถ้าพูดเรื่องการตกแต่งบ้านให้สวยงาม เราสามารถเลือกใช้สีของสัตว์เลี้ยงมาเป็นธีมในการเลือกสีและเฟอร์นิเจอร์ของห้องได้ เช่น ถ้าเราเลี้ยงนกแก้วสีเขียว อาจจะเลือกทาสีผนังเป็นสีเขียวและตกแต่งห้องด้วยต้นไม้เพื่อให้ความรู้สึกที่เหมือนอยู่ในป่า หรือเลือกใช้พื้นคอนกรีตขัดมันให้สีเหมือนแมวสีเทาที่เลี้ยงไว้ และทีม เรียนนายหน้าอสังหา คุณอาจจะเลือกสีของเก้าอี้โซฟาให้มีสีเดียวกับขนของเจ้าตูบแสนรัก เพื่อจะทำให้มองไม่เห็นขนมันเมื่อใช้งาน เป็นต้น รวมไปถึง คุณสามารถเลือกภาพฝาผนัง หรือของตกแต่งที่มีลวดลายจากสัตว์เลี้ยงมาตกแต่งภายในบ้านก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจนะครับ ทำให้ดูเป็นบ้านสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยงตัวจริงเลย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นแนวทางในการเปลี่ยนบ้านให้เอื้อต่อการเลี้ยงสัตว์แบบง่ายๆ ที่เราอยากให้คุณลองนำไปปรับใช้กันตามความเหมาะสมนะครับ เรียนนายหน้าอสังหา โดยเมื่อเราตัดสินใจพาเจ้าตัวเล็กเข้ามาในบ้านของเราแล้ว เราก็ต้องยอมเปลี่ยนบ้านของเราให้ดีต่อเขาด้วย เพราะเขาได้เป็นสมาชิกในครอบครัวของเราไปแล้ว ซึ่งเมื่อสัตว์เลี้ยงของเรามีความสุข เขาก็จะร่าเริงและทำให้เรารู้สึกดีไปด้วยครับ ที่สำคัญคือเราต้องเข้าใจเขา ไม่ใช่แค่อยากจะเลี้ยงสัตว์ก็ไปซื้อมาเลี้ยง แต่เลี้ยงไม่เป็นแล้วทำให้เขาอยู่อย่างไม่มีความสุขก็คงไม่ถูกต้องนะครับ

สัมมนานายหน้าอสังหา

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *