ทีม รับสอนseo แนะวิธี ” เริ่มต้นธุรกิจ ” จากประสบการณ์การทำธุรกิจออนไลน์ ที่เหมาะกับธุรกิจ SME ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นสินค้า (Products), หน้าร้านออนไลน์ (Website หรือ Fanpage) และ การตลาดออนไลน์ (Online Marketing)
โดย ทีม รับสอนseo ยังแทรกเทคนิคที่สำคัญที่ช่วยให้ทำธุรกิจออนไลน์ได้ผลยิ่งขึ้น สู้กับคู่แข่งที่มีกำลังเงินและคนมากกว่าได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงที่จะขาดทุน
ธุรกิจอะไรที่เหมาะกับการ เริ่มต้น หาธุรกิจที่เหมาะกับตัวคุณ
เมื่อทำธุรกิจส่วนตัวแล้วมั่นคงสักระยะนึง ผลตอบแทนจะสูงกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือน นั้นก็เพราะรายได้เกิดจากกลุ่มลูกค้าหลายทางหลายพื้นที่ ซึ่งมากกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนที่รับรายได้เพียง 1 ทางเท่านั้น
การทำธุรกิจ SME ออนไลน์อาศัยทักษะหลายด้าน เช่น การค้าหาสินค้าที่ขายได้, การต่อรองราคา, การค้นหาช่องทางการขายและการโฆษณา ซึ่งสิ่งๆต่างๆเหล่านี้เปลี่ยนแปลงเร็ว และไม่ค่อยแน่นอน ทำให้คนทำธุรกิจตัวเอง ต้องปรับตัวเร็วและตื่นตัวมากกว่าการทำงานประจำ ส่งผลให้คนที่ ” อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ” ต้องขยัน อดทน พัฒนา และมีวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจพอตัวทีเดียว
การค้นหา ” ธุรกิจที่เหมาะกับตัวเอง ” จะเริ่มต้นด้วยสิ่งที่ตัวเองถนัด และรู้ดีที่สุด จะเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่สุด หลังจากนั้นจึงต่อยอดไปสู่สิ่งที่รักและธุกิจตัวเองที่อยากสร้าง โดยต้องพัฒนาทักษะและความสามารถควบคู่กันไปด้วย
ในช่วงเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ของตัวเองควรใช้จุดเด่นของตัวเอง ช่วยให้ได้เปรียบคู่แข่ง และสามารถใช้จุดนี้ในการทำการตลาด โปรโมทเพิ่มเติมได้อีกด้วย
ก่อนจะเริ่มต้นทำธุรกิจ ควรพัฒนาตัวเองด้านไหนก่อน
การเริ่มต้นทําธุรกิจ สำหรับธุรกิจ SME ออนไลน์ ที่มีกำลังเงินน้อย ควรพุ่งประเด็นไปที่การพัฒนาตัวเองก่อนในทักษะดิจิตอล พร้อมๆกับทำการตลาดออนไลน์ใน Social Media หรือ Website ของธุรกิจตนเอง
ทักษะดิจิตอลสำหรับการทำธุรกิจ SME ออนไลน์
- ทักษะการถ่ายภาพดิจิตอล : เป็นพื้นฐานสำคัญในการนำเสนอและใช้ประกอบกับทักษะอื่นๆ
- ทักษะการเขียน Engagement Content เช่น เขียนให้คนอ่านได้ประโยชน์ในสิ่งที่เกี่ยวกับธุรกิจของเรา และเกิดคนแชร์ใน Facebook
- ทักษะการเขียน SEO Content เช่น การเขียนบทความ (Articles) ที่สอดคล้องกับ Google Search เร่งการติดอันดับช่วยเพิ่มคนเข้าเว็บ
- ทักษะการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สวย เช่น ออกแบบ logo, ออกแบบ Packaging
- ทักษะทำการตลาดให้เข้าใจง่าย และ ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยเช่น Facebook Ads และ Google AdWord , รับสอนseo
- ทักษะการปิดการขายด้วย Line, Facebook Inbox และ Email
ลงมือทำให้เร็วกว่าความคิด
คนทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จต้องทำมาก ล้มมาก และลุกขึ้นมาใหม่ได้นับสิบครั้ง กว่าจะพบธุรกิจส่วนตัวทีทำแล้วประสบความสำเร็จ นั้นก็เพราะเราต้องหล่อหลอมความคิด ขยายกรอบวิสัยทัศน์ให้กว้างไกล และเรียนรู้กระบวนการในการทำธุรกิจที่ได้ผลไปพร้อมๆกัน
หากเราลงมือทำธุรกิจน้อยเกินไป เราจะเรียนรู้ได้ไม่มากพอ และไม่เห็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ทั้งในเรื่อง สินค้า, ช่องทางการขาย และการตลาด ซึ่ง 3 สิ่งเหล่านี้ต้องศึกษาด้วยตัวเอง ไม่มีสอนในมหาลัยมากนัก ถึงมีสอนก็เป็นความรู้เก่า ตัวเรายังต้องไปลุยในสนามจริงเพื่อสัมผัสสถานการณ์ใหม่ๆให้ทันยุคในสมัยนี้
การลงมือทำให้เร็วกว่าความคิด และไม่ควรคิดเกิน 3 วินาที เป็นแนวคิดที่ได้ผลจริง เพราะ หลังจากผ่านไป 3 วินาทีกระบวนการคิดของลูกจ้างประจำที่สั่งสมมาในอดีต จะบอกเหตุผลให้เรา และหยุดให้เราไม่ทำธุรกิจส่วนตัว หรือสานต่อธุรกิจส่วนตัวซะที นั้นก็เพราะ ความสบายในงานประจำของเรานั้นเอง
การลงมือทำเร็ว หมายถึงการสร้างผลงานและพัฒนาตัวเองได้เร็ว อย่าใช้เงินลงทุนมากเกินไป เพราะธุรกิจมันต้องเรียนรู้จากการล้มเหลวด้วย ถ้าใช้เงินเยอะในช่วงแรก จะลุกขึ้นมาใหม่ยาก
การลงมือทำให้เร็วกว่าความคิดแบบลูกจ้าง จะช่วยทำให้เราได้ผลงาน ไม่ว่าจะล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จๆ แม้จะเป็นงานเล็กๆ เราก็จะได้ความรู้ (Know-how) ในขั้นตอนดังกล่าว เพื่อนำมาใช้ในวันข้างหน้า เพราะการทำธุรกิจส่วนตัวให้ประสบความสำเร็จ คือการค้นพบวิธีการย่อยๆหลายวิธีการมาประกอบกันเป็นธุรกิจ
ตัวอย่างวิธีย่อยๆในการทำธุรกิจ
- วิธี การค้นหาสินค้าให้ขายได้
- วิธี การลดต้นทุนราคา และเพิ่มประสิทธิภาพสินค้า
- วิธี การเผยแพร่สินค้าผ่านช่องทางการขาย
- วิธี การจัดเรียงสินค้าให้หลากหลาย ใช้ง่าย และสะดุดตา
- วิธี การทำภาพประกอบสินค้าให้สวยน่าซื้อ น่าคลิ๊กชม
- วิธี การทำการตลาดผ่าน SEO และ Facebook Ads
Tip : หลังจากลงมือทำมามาก เราจะคิดอย่างถูกต้องมากขึ้น และมีเวลากับตัวเอง ไม่ต้องเร่งรีบเหมือนช่วงแรกของการทำธุรกิจ
เรียนรู้จากความผิดพลาดในเรื่อง สินค้า, ช่องทางการขาย และการตลาด ให้ได้มากที่สุด เพื่อแก้ไขได้ทันทีทันควัน
เราจะเรียนรู้เรื่องสินค้าได้อย่างไร ?
หากต้องการเรียนรู้เรื่องสินค้าว่ามันทำเงิน มันขายได้หรือปล่าว ให้เลือกสินค้าที่จะขายมา 1 ตัว แล้วหัดตั้งราคาด้วยตัวเองจากการ Research ตามท้องตลาด หรือหากเป็นสินค้าที่ไม่ซ้ำใครก็สามารถตั้งราคาได้เองตามความพอใจ หลังจากมีสินค้าและตั้งราคาเรียบร้อยแล้ว จะเหลือช่องทางการขาย และการตลาดที่ต้องทำต่อ
ช่องทางการขาย : ให้เลือกระบบที่ใช้ง่ายไม่ซับซ้อน แต่มีประสิทธิภาพที่สุด ณ ปัจจุบันคือ Facebook Fanpage
การตลาด : ให้เลือกระบบที่ใช้งาน ไม่ซับซ้อน แต่มีประสิทธิภาพมาก ณ ปัจจุบันคือ Facebook Ads & Organic
หัวใจของการทดสอบสินค้านี้คือ พุ่งประเด็นไปที่ตัวสินค้าและราคา ว่ามีคนต้องการมากน้อยแค่ไหน ? โดยอย่าเสียเวลากับช่องทางการขายและการทำการตลาดมากนักตัวอย่างวิธีการทดสอบสินค้า ใช้เวลา 1 เดือน งบประมาณโฆษณา 3,000 บาท ไม่รวมค่าสินค้า
- เตรียมภาพสินค้า ราคา และแสดงประโยชน์ใช้งานในรูปแบบที่เหมาะสม เช่น ภาพ,ข้อความ หรือ วีดีโอ
- วางแผนโพสสินค้าลง Facebook Fanpage ให้ได้เกือบทุกวัน
- ทำโฆษณาแฟนเพจ 100 บาท/วัน โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายให้ถูกต้อง (วิธีการทำโฆษณาอ่านได้จาก Help)
วัดผลและดู Feedback จากลูกค้าว่าสนใจในตัวสินค้ามากน้อยแค่ไหน ? ทั้งราคาต้นทุน, ราคาขาย, ความต้องการสินค้า, ความน่าเชื่อถือ, ภาพสวยสะดุดตา, ความสะดวก และความนิยมในท้องตลาด อื่นๆ หากสินค้าไม่เวิร์ค ให้เปลี่ยนสินค้าและเรียนรู้เกี่ยวกับสินค้าต่อไป จนกว่าจะมีวิสัยทัศน์เพียงพอในการเลือกสินค้าที่จะขาย
ในธุรกิจ SME ให้โฟกัสที่การทำการตลาดผ่าน Engagement Content ใน Facebook และ SEO Content ใน Website เป็นสำคัญ และทำสม่ำเสมอเป็นกลยุทธ์หลักสร้างแบรนด์ ไม่ควรใช้ Adwords และ Facebook Ads ในการทุ่มเงินโฆษณาเพียงอย่างเดียว เพราะอาจแพ้ให้คู่แข่งที่มีกำลังเงิน และกำลังคนมากกว่าได้
หากใครสนใจศึกษาเพิ่มเติมสามารถหาอ่านบทความอื่นๆ ได้ที่หน้าเว็บ หลักสูตร seo เลย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *