สวัสดีทุกท่านวันนี้เรากลับมาพบกับแอดมินเว็บ อาชีพนายหน้าขายบ้าน ในวันนี้เรามีวิธีดูแลรักษาหลังคาบ้านของคุณมาให้อ่านกัน
จากประสบการณ์ของเว็บ อาชีพนายหน้าขายบ้าน หลายๆคนซื้อบ้านไป ไม่นานก็มีปัญหาหลังคารั่ว หลังคาแตก กัน ซึ่งบางครั้งหลังคาก็อาจจะเพิ่งเปลี่ยนมาใหม่ๆ หรือบางบ้าน ก็หลังคาเก่ามากเต็มที
โดยตัวหลังคา เมื่อ โดดแดดโดนลมโดนฝน ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ก็ต้องมีการสึกหรอไปเป็นธรรมดา เหมือนกับร่างกายเราที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านกาลเวลาถ้าไม่ยอมดูแลรักษากันบ้าง ก็ต้องสึกหรอและเสื่อมถอยเช่นกัน
ดังนั้นวันนี้เราจึงมีวิธีดูแลหลังคาบ้านเบื้องต้นมาให้อ่านกัน
ตรวจเช็คว่าการปูกระเบื้องบนหลังคาเป็นระเบียบเรียบร้อยไหม
การวางระยะห่างระหว่างกระเบื้องต้องเท่ากัน การปูกระเบื้องหลังคาที่ถูกต้องจะเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ หากมีกระเบื้องที่เหลื่อมทับซ้อนกันหรือชำรุด ควรรีบแก้ไขโดยทันที เพราะอาจจะทำให้หลังคารั่ว หรือหล่นลงมาได้
หลังคาที่ดีต้องไม่มีกระเบื้องที่มีรอยแตกร้าว
รอยร้าวเล็กๆอาจทำให้น้ำรั่วซึมเข้ามาได้ และถ้าไม่แก้ไขรอยร้าวอาจจะเพิ่มมากขึ้นจนแตกและหล่นลงมา และ ส่วนของตัวครอบหลังคาที่ถูกยึดด้วยปูน ควรอยู่ในสภาพแข็งแรงไม่แตกร้าว เพราะรอยร้าวของปูนเล็กๆ อาจจะทำให้กลายเป็นรอยใหญ่ตามในภายหลังก็ได้ การแตกของปูนนั้นเมื่อเริ่มมีการแตกแล้ว จะค่อยๆ มีรอยร้าวยาวไปเรื่อยๆ จนหลุดร่อนออกมาเป้นชิ้น ๆ ดังนั้นควรสกัดและซ่อมแซมทันทีที่เริ่มเห็นร้อยร้าว
หากมีต้นไม้ใหญ่อยู่ใกล้กับหลังคาบ้าน ควรตัดแต่งกิ่งออกสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันกิ่งไม้หล่นใส่หลังคาบ้าน
ถ้าบ้านปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ในตัวบ้าน เช่น ต้นมะม่วง หูกระจง ต้นขนุน หรืออื่นๆ ที่เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ควรตัดแต่งกิ่งออกเสมอ เพื่อไม่ให้ตกใส่หลังคาบ้าน จนเกิดความเสียหายได้
คราบต่างๆ บนหลังคาอาจก่อให้เกิดเชื้อราได้
ซึ่งคราบสกปรกเหล่านี้ จะทำให้หลังคาดูเก่าหมอง และเมื่อสะสมไปนานๆ อาจจะทำให้เกิดเป็นเชื้อรา โดย เชื้อราเหล่านี้แพร่ได้เร็วมากโดยส่วนมากมักเกิดขึ้นกับหลังคาส่วนที่อยู่ในร่ม หรืออยู่ใกล้ตึกสูง ในบริเวณที่แสงแดดส่องไม่ถึง
หลังคาบ้านก็สามารถช่วยให้บ้านประหยัดพลังงานได้
1.หลังคาที่มีมวลสารน้อยจะมีค่าการดูดซึมและสะสมควมร้อนต่ำ ทำให้ถ่ายเทความร้อนเข้าสู่ตัวอาคารน้อยลง เช่น หลังคาประเภทที่น้ำหนักเบา อย่างหลังคา Metal sheet, Shingles roof, สังกะสี เป็นต้น
2.หลังคาที่มีค่าต้านทานความร้อน สามารถป้องกันการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกสู่ภายในอาคารได้ดี เช่น หลังคาประเภทไม้, หลังคาที่เป็นวัสดุพื้นผิวมัน และหลังคาโทนสีอ่อน
3.อาคารที่มีลักษณะเป็นจั่วสูง หรืออาคารที่มีช่องว่างอากาศใต้หลังคา เปรียบเสมือนกับเป็นฉนวนความร้อนอยู่แล้ว หากเพิ่มช่องทางในการระบายอากาศใต้หลังคา จะช่วยสร้างแรงกดกับอากาศ ด้านรับลมส่งผลทำให้อากาศในบ้านหมุนเวียนดีขึ้น
4.เพิ่มประสิทธิภาพด้วยฉนวนกันความร้อน หรือแผ่นสะท้อนความร้อน สามารถป้องกันการนำความร้อนผ่านหลังคาเข้าอาคารได้โดยตรง ซึ่งปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป หลากหลายชนิด หลายประเภท ให้เลือกตามความเหมาะสม ถ้าให้ดี ติดตั้งให้ได้ประสิทธิภาพนั้น ควรปรึกษากับทางสถาปนิกผู้ออกแบบ หรือผู้ผลิตสินค้าฉนวนโดยตรงจะดีกว่า
เพียงแค่วิธีแค่นี้ เราก็สามารถที่จะดูแลรักษา หลังคาของเราได้ยาวนานขึ้นแล้ว ทางเว็บ ตัวแทนขายบ้าน หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกท่าน
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *