7 ขั้นปั้นอันดับ Website ทำยังไงให้ติด TOP 10 Google ทำการตลาดยังไงให้ลูกค้าวิ่งเข้าหาอย่างไรขีดจำกัด “Search Engine Optimization”
เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ค้นหาข้อมูล 7 ขั้นปั้นอันดับ Website ผ่าน Google มากเป็นอันดันหนึ่งในหลายๆ ประเทศ ทั้งในประเทศไทย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ อินเดีย ญี่ปุ่น เป็นต้น ส่วนใหญ่จึงเน้นการทำ SEO บน Google เป็นหลัก
เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ค้นหาข้อมูลผ่าน Google มากเป็นอันดันหนึ่งในหลายๆ ประเทศ ทั้งในประเทศไทย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ อินเดีย ญี่ปุ่น เป็นต้น ส่วนใหญ่จึงเน้นการทำ SEO บน Google เป็นหลัก
ถ้าหากลูกค้าของท่านไม่สามารถติดต่อออนไลน์กับท่านได้ ท่านอาจจะสูญเสียธุรกิจไปอย่างมาก บ่อยครั้งเราจะได้ยินคำพูดนี้ “ฉันอยากเป็นลำดับหนึ่งบน เสิร์ชเอนจิน” เราสามารถสนองความต้องการนี้แก่ท่านได้โดยใช้ประสบการณ์ที่สะสมมานานตลอดจนใช้กลยุทธหลากหลายรูปแบบที่พิสูจน์มาแล้วว่าได้ประสิทธิภาพ
“SEO” หรือ “Search Engine Optimization“ คือ วิธีการง่ายๆ 7 ขั้นปั้นอันดับ Website วิธีการปรับแต่งเว็บไซต์ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงเนื้อหาและการเพิ่มลิงค์ที่มีคุณภาพมายังเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์ติดอยู่ในอันดับต้นๆ บน Search Result Page (หน้าแสดงผลการค้นหา) เมื่อกรอก Keyword (คำค้นหา) ที่ต้องการผ่าน Search Engine ต่างๆ อาทิ Google, Yahoo!, Bing เป็นต้น
ในส่วนปกติจะมี Paid Search และ Organic Search หรือ Natural Search ในส่วนนี้ข้อมูลหน้าเว็บไซต์ทั้งหมดที่ทางระบบของ Search Engine อาทิ Google หรือ Yahoo! รวบรวมมาโดยใช้คะแนนในการจัดอันดับ การให้คะแนนนั้นก็ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ที่แต่ละ Search Engine ได้กำหนดขึ้น จึงเรียกวิธีที่การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอยู่ในอันดับต้นๆ บนหน้าผลการค้นหานี้ว่า “SEO”หรือ “Search Engine Optimization”
Search Engine Optimization คืออะไร?
เสิร์ชเอนจิน (Search Engine อย่าง Google หรือ Yahoo) เป็นสื่อออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายบนอินเตอร์เน็ตได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับสื่อ โฆษณาแบบ Online อย่างป้ายโฆษณา (Banner) และสื่อ Offline อย่างโทรทัศน์และป้ายโฆษณาทั่วไป เมื่อเปรียบเทียบในแง่การแสดงผล และจำนวนของผู้ที่จะได้เห็นป้ายโฆษณาเหล่านั้น Search Engine กลับมีค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณาที่ถูกกว่าหลายเท่าตัว ดังนี้แล้วหากต้องการที่จะเพิ่มช่องทางการตลาด เพิ่มยอดขาย เพิ่มอัตราผู้เข้าชมเว็บไซต์ ควรจะต้องทำให้เว็บไซต์ของเรานั้นติดอันดับอยู่ใน 10 อันดับแรก ของผลการค้นหา ในทุกครั้งที่มีการค้นหาจากคำค้นหา (keyword) ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของเว็บไซต์เรา
เสิร์ชเอนจิน ทำเหมือนตัวเชื่อมต่อระหว่างเว็บไซต์ของเรากับลูกค้านั่นเอง ดังนั้นถ้าไม่มีการทำเสิร์ชเอนจิ้นให้กับเว็บไซต์ที่สร้างขึ้น ก็จะไม่มีใครมองเห็นเว็บไซต์หรือสินค้าบริการของคุณอย่างแน่นอน เท่ากับเป็นเว็บไซต์ร้างไปในที่สุด ถึงแม้เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมานั้นจะลงทุนมหาศาลก็ตาม ก็ไม่มีผลใดๆและยังแน่ใจได้ว่า เว็บไซต์ของเราคุ้มค่ากับทุกๆ การลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำ SEO เพราะสามารถติดตามและตรวจสอบผลการดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างชัดเจน และเราจะได้รับผลตอบแทนที่ดีมากในอนาคต
จุดเด่นในการทำ Search Engine Optimization (SEO)
ประสิทธิภาพสูง : ทำให้มีผู้เข้าเว็บไซต์ของท่านมากขึ้น เพราะผู้ใช้ Search Engine ประมาณ 95% จะนิยมคลิกเฉพาะเว็บไซต์ที่ปรากฏใน 2 หน้าแรกเท่านั้น เพิ่มความน่าเชื่อถือ : เนื่องจากผลลัพธ์ของการค้นหา จะปรากฎในตำแหน่งทางซ้ายมือ หรือเป็นตำแหน่งของผลการค้นหาธรรมชาติ ที่จะได้เปรียบมากกว่า ตำแหน่งผู้สนับสนุนทางด้านขวามือ ซึ่งเพิ่มความเชื่อถือให้กับลูกค้า ว่าเว็บไซต์ของท่านได้รับความนิยมอย่างสูง ในเว็บ Search Engine นั้น
ตรงกลุ่มเป้าหมาย : การทำ SEO นั้น จะส่งผลให้เว็บไซต์ของท่าน ได้รับการโฆษณาตรงตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างแท้จริง เพราะการเลือกคำค้นหา (Search Keyword) จะทำให้เว็บไซต์ของท่าน จะปรากฎเมื่อมีผู้สนใจในสินค้า และบริการประเภทนั้น ซึ่งมีความต้องการที่จะซื้อ หรือใช้บริการ ณ เวลานั้นด้วย
ประหยัด และคุ้มค่า : เมื่อเทียบกับการโฆษณา ประเภทอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ทีวี, วิทยุ, หนังสือพิมพ์, นิตยสาร และการโฆษณาแบนเนอร์ในเว็บไซต์นั้น วิธี SEO ถือว่าประหยัด และคุ้มค่าที่สุด เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ในแง่ของธุรกิจ มีปัจจัยจำนวนไม่น้อยที่มีผลกระทบกับตำแหน่งของเว็บไซต์บน search engine บางปัจจัยก็ถูกตีแพร่ให้เป็นที่รู้กันในกลุ่ม SEO ในขณะที่บางปัจจัยก็ยังคลุมเครือและยิ่งสร้างความยุ่งยากเพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้ นอกจากนั้นแต่ละ search engine ให้น้ำหนักและความสำคัญกับปัจจัยเหล่านี้ต่างกัน ตลอดจนเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นประจำเพื่อป้องกันการโกง
Search Engine Algorithm คือ?
ระบบการจัดอันดับการแสดงผลใน Search Result Page (หน้าแสดงผลการค้นหา) มีชื่อเรียกว่า Algorithm (อัลกอริทึม)แต่ละ Search Engine จะมีระบบ Algorithm ที่แตกต่างกันและจะมีการอัพเดตอยู่เสมอๆ เราจึงจำเป็นต้องสร้างเว็บไซต์ให้มีคุณภาพตาม Algorithm เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำอันดับได้ดีมากที่สุด
เราสามารถสรุป Algorithm (อัลกอริทึม) ที่ใช้ในการจัดอันดับเว็บไซต์ได้เป็น 2 ปัจจัย คือ
1. ปัจจัยภายใน (On-page / Micro) เช่น โครงสร้างของเว็บไซต์ ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ จำนวนหน้าภายใน
เว็บไซต์ คุณภาพและปริมาณของเนื้อหา การเลือกใช้คำ (Keyword) และการวางประโยคในส่วนต่างๆ
2. ปัจจัยภายนอก (Off-page / Macro) เช่น ปริมาณลิงค์จากเว็บไซต์อื่น (Backlinks) รวมทั้งเนื้อหาและคุณภาพของลิงค์จากเว็บไซต์อื่นที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของเรา
โดยส่วนมากแล้ว วิธีการสำหรับการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จมากที่สุด ประกอบด้วยวิธีการต่างๆ ดังนี้
แนวทางการทำ On-page SEO
- การปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับ Search Engine และผู้ใช้ เช่น การเลือกใช้โครงสร้างเมนูและ URL ที่ Search Engine สามารถอ่านได้ง่าย การทำหน้าเว็บไซต์ให้โหลดได้รวดเร็ว เป็นต้น
- การใส่ Keyword เป้าหมายอย่างพอเหมาะในส่วนที่ส่วนที่มีความสำคัญต่างๆ ภายในเว็บไซต์ เช่น Title Tag, Meta Description, H1 tag, H2 tag, เนื้อหาส่วนที่เป็น Plain Text ควรหลีกเลี่ยงการใช้ Keyword ซ้ำๆ กันเป็นจำนวนมากเพื่อไม่ให้เป็น Keyword Spam หรือ Keyword Stuffin
- การเพิ่มเติมเนื้อหาที่มีคุณภาพในหน้าที่ทำ SEO และสร้างหน้าเว็บใหม่ๆ ขึ้นมา โดยเนื้อหาต้องเขียนขึ้นเอง ไม่ก็อปปี้มาจากที่อื่น ให้ข้อมูลที่เจาะลึกและมีประโยชน์เพื่อให้เป็นเนื้อหาที่มีคุณภาพมากที่สุดในสายตาของ Search Engine
- การอัพเดตให้เว็บไซต์ให้มีความสดใหม่สม่ำเสมอ อาจทำได้โดยการเพิ่มบทความ ข่าวสาร โปรโมชั่น หรือผลงาน เป็นต้น
- การเพิ่ม Backlinks จากเว็บไซต์อื่นที่มีความน่าเชื่อถือและมีเนื้อหาหรือบริบทเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์หรือ Keyword ของเรา
อย่างค่อยเป็นค่อยไป ควรทยอยเพิ่มไปเรื่อยๆ เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ป้องกันการโดนแบนจาก Search Engine
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก Google
แนวทางการทำ Off-page SEO
- การเพิ่ม Backlinks จากเว็บไซต์อื่นที่มีความน่าเชื่อถือและมีเนื้อหาหรือบริบทเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์หรือ Keyword ของเรา
อย่างค่อยเป็นค่อยไป ควรทยอยเพิ่มไปเรื่อยๆ เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ป้องกันการโดนแบนจาก Search Engine
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก Google
หลังจากเริ่มทำ SEO ไปได้สักระยะหนึ่ง จะเริ่มเห็นการพัฒนาของอันดับไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นก็ขึ้นอยู่กับเนื้อหาและคุณภาพของเว็บไซต์ของเรา รวมทั้งการแข่งขันใน Keyword นั้นๆ และคุณภาพเว็บไซต์ของคู่แข่ง โดยทั่วไปแล้วอันดับจะไต่ขึ้นมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป หากอันดับของเว็บไซต์ยังไม่ดีขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจ จำเป็นต้องเพิ่มเนื้อหาภายในเว็บไซต์กับเพิ่มจำนวน Backlinks ที่มีคุณภาพให้มากยิ่งขึ้น และเมื่อเว็บไซต์ติดในหน้าแรกของผลการค้นหาแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องอัพเดตเว็บไซต์ เพิ่มเติมเนื้อหา และเพิ่ม Backlinks อย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาอันดับเอาไว้
ปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อการทำ SEO
สัญญาณจากผู้ใช้เว็บไซต์ (User Signals)
ข้อมูลการใช้งานของเว็บไซต์สามารถดูได้จาก Google Analytics ไม่ว่าจะเป็น จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ (Users), อัตราตีกลับ (Bounce Rate), รายงานข้อความค้นหาของคีย์เวิร์ด (Queries) และ อัตราการคลิกเข้าชมเว็บไซต์ผ่าน Keyword นั้นๆ (CTR) เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้เป็นสัญญาณที่สำคัญที่ใช้วัดคุณภาพของเว็บไซต์ได้ ด้วยเหตุนี้เองเว็บไซต์ที่ต้องการทำ SEO จึงควรติด Google Analytics เพื่อให้ Google เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้
สัญญาณจาก Social Media (Social Media Signals)
จำนวน Likes และ Shares ของลิงค์หน้าเว็บไซต์จาก Social Media ต่างๆ ได้แก่ Facebook, Google+, Twitter และ Pinterest มีส่วนช่วยในการจัดอันดับเว็บไซต์ การสร้างบทความที่มีประโยชน์ซึ่งเกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักในเว็บไซต์และใช้ Social Media เป็นช่องทางในการกระจายบทความไปยังผู้ใช้เพื่อดึงให้คนเข้ามาอ่านบทความในเว็บไซต์ จึงเป็นวิธีการที่ช่วยให้ทำอันดับบน Google ได้ดีและติดอันดับเร็วขึ้น
การทำการตลาดผ่าน SEO เหมาะสำหรับ?
1. การเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
ในปัจจุบัน มีผู้ค้นหาข้อมูลผ่าน Search Engine เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หากเว็บไซต์ติดอันดับด้วย Keyword ที่มีผู้ใช้ค้นหาเป็นจำนวนมาก ก็มีโอกาสที่จะมีผู้เข้าชมเว็บไซต์มากตามไปด้วย อีกทั้งเมื่อมี Keyword ใดติดอันดับ Keyword ที่ใกล้เคียงกันก็จะติดอันดับไปด้วย จึงจะมีผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นจาก Keyword อื่นๆ ที่ไม่ได้เลือกทำ SEO ได้อีกด้วย
2. การเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการ
การทำ SEO เป็นการทำให้เว็บไซต์ถูกค้นเจอด้วย Keyword ที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง ผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ผ่าน Search Engine ย่อมมีความสนใจใน Keyword นั้นอยู่แล้ว ก็ย่อมมีโอกาสสูงที่จะซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากเว็บไซต์ที่เข้าไปชม นอกจากนั้นแล้ว การที่มีผู้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น ก็มีโอกาสที่จะขายสินค้าหรือบริการได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
3. การโปรโมทเว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จักและเพิ่มความน่าเชื่อถือ
โดยส่วนใหญ่เวลาที่คนค้นหาข้อมูลผ่าน Search Engine ก็จะเปิดดูเว็บไซต์ที่อยู่ในหน้าแรกหรือหน้าถัดมาในผลการค้นหาเท่านั้น การที่เว็บไซต์ของเราปรากฏอยู่ในหน้าแรกและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอันดับต้นๆ จะทำให้ชื่อของเว็บไซต์ได้เห็นผ่านตาและเป็นที่รู้จัก แม้ว่าจะยังไม่ได้คลิ๊กเข้ามาดูเนื้อหาในเว็บไซต์ก็ตาม
4. การลดค่าใช้จ่ายในการลงโฆษณา
เนื่องจากทำ SEO ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าเว็บไซต์จะติดอันดับในหน้าแรก จึงเหมาะสมกับเป็นการทำการตลาดในระยะยาว และเนื่องจากการคลิ๊กเว็บไซต์ในส่วนของ SEO นั้นจะไม่มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเหมือนกับการลงโฆษณากับ Search Engine โดยตรง จึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้และราคาค่อนข้างถูกกว่าการลงโฆษณากับสื่ออื่นๆ ทั้งนี้หากเลือกทำ SEO ด้วย Keyword ยอดนิยมที่มีคนใช้มากๆ ค่าใช้จ่ายก็อาจสูงตามไปด้วย เพราะมีการแข่งขันที่สูง ดังนั้น เวลาเลือก Keyword จึงควรพิจารณาให้เหมาะสมกับจุดประสงค์ในการทำการตลาดและความคุ้มค่าในการลงทุน
บริการ SEO ของเรา
เรามีบริการ SEO ที่จะช่วยวิเคราะห์และนำเสนอการปรับปรุงโครงสร้างและเนื้อหาของเว็บไซต์ให้ถูกต้อง เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับที่ดีขึ้น รวมถึงบริการ SEO แบบการันตีอันดับติดหน้าแรกบน เช่น Google.co.th ลูกค้าจะได้รับความรู้จากเราอย่างเต็มที่ และสามารถนำไปต่อยอดกับ Keyword อื่นๆ ได้
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *