ในปัจจุบัน แอดมิน นายหน้าขายบ้าน ว่า “บ้านที่เป็นบ้าน” ไม่ใช่แค่ออกแบบสวยงาม สร้างเสร็จแล้วจบกันไป แต่ยังต้องเอาใจใส่ดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอๆ เพื่อให้ความเป็นอยู่ที่ดูมีชีวิตชีวาไปตลอดกาล
แต่วิถีชีวิตของผู้คนยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่แล้วตื่นเช้ามาก็รีบออกไปทำงาน กลับมาถึงบ้านก็มืดค่ำแล้ว แถมยังต้องแบกความเหน็ดเหนื่อยกลับมาบ้านในทุกๆวันอีก กลับมาก็ต้องการพักผ่อน เพื่อที่จะได้มีเรี่ยวแรงไปทำงานในเช้าวันถัดไป นานวันเข้าบ้านที่เคยใหม่ ดูเป็นระเบียบ ค่อยๆ เพิ่มไรฝุ่น ข้าวของเริ่มดูไม่น่ามอง วันนี้ นายหน้าขายบ้าน ขอเอาใจหนุ่มสาววัยทำงานที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลบ้าน ให้สามารถจัดการกับบ้านได้ง่ายยิ่งขึ้น
ลดซอกหลืบให้บ้าน
ปัญหาที่พบมากเมื่อปล่อยบ้านทิ้งไว้แม้จะแค่วันเดียว คือ ฝุ่นที่เกาะตามจุดต่าง ๆ โดยเฉพาะซอกหลืบของห้อง หลังตู้ และโต๊ะ ดังนั้นในการออกแบบและตกแต่งบ้าน ต้องพยายามลดเหลี่ยมมุม ลดซอกเล็กซอกน้อยให้มากที่สุดตั้งแต่แรก เริ่มจากผนังบ้านควรออกแบบให้มีมุมเสาน้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ ซึ่งอาจใช้วิธีการก่อผนังอิฐ 2 ชั้น เพื่อให้ความหนาของผนังเท่ากับเสาพอดี
เฟอร์นิเจอร์และของใช้ภายในบ้านต้องเข้าถึงได้ง่าย เช่น เลือกโซฟาและเตียงนอนเลือกใช้แบบขาโปร่ง เพื่อให้สามารถปัดกวาดเช็ดถูได้สะดวก หรือใช้งานร่วมกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นได้ ตู้ควรเป็นบานปิดและไม่ควรสูงเกินไปเพราะจะเอื้อมเช็ดฝุ่นได้ยาก
ของใช้ทุกชิ้น ต้องมีที่อยู่ประจำ
หนึ่งในเคล็ดลับสำคัญที่ผู้เขียนได้เรียนรู้มาจากหนังสือ “ชีวิตดีขึ้นทุกด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว” คือการจัดสรรที่อยู่ประจำให้กับของใช้ทุก ๆ ชิ้นภายในบ้าน เพราะต้นเหตุของปัญหาบ้านรก ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการไม่มีที่จัดเก็บอย่างเพียงพอ หากของใช้แต่ละชิ้นภายในบ้านมีที่จัดเก็บเฉพาะ เมื่อสมาชิกภายในบ้านหยิบไปใช้แล้ว จะนำกลับมาวางในตำแหน่งเดิมทุก ๆ ครั้ง โดยห้ามมิให้ของชิ้นอื่นมาวางแทนที่
การมีพื้นที่จัดเก็บ ทั้งชั้นวางของ ตู้เก็บของ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยจัดสรรของใช้ได้อย่างเป็นระเบียบอยู่เสมอ และหากของใช้ใดไม่ได้ใช้บ่อย ควรมีหน้าบานตู้ปิดไว้อย่างมิดชิด จะช่วยป้องกันฝุ่นและช่วยให้ภาพรวมของบ้านดูเป็นระเบียบสวยงาม
ของตกแต่ง = ของใช้
ยิ่งมีของตกแต่งบ้านเยอะมากเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลให้การดูแลบ้านยากมากขึ้นเท่านั้น การลดปริมาณข้าวของเครื่องใช้เท่าที่จำเป็นจึงสามารถช่วยให้การจัดบ้าน เป็นเรื่องที่เบาแรงขึ้นมาก อ่านมาถึงจุดนี้ผู้อ่านอาจจะสงสัยว่า หากไม่มีของตกแต่งบ้าง บ้านจะสวยได้อย่างไร ? วิธีการคือให้เลือกซื้อของใช้ภายในบ้านที่มีดีไซน์สวยงาม ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และของใช้ภายในบ้าน เมื่อของใช้เหล่านี้มีดีไซน์ที่สวยงาม จะให้ความรู้สึกเสมือนเป็นของตกแต่งไปโดยอัตโนมัติ ของทุก ๆ ชิ้นที่นำมาจัดวาง จึงควรเป็นของที่มีประโยชน์ด้านการใช้สอยเท่านั้น
เลือกวัสดุตกแต่งผิวที่ดูแลง่าย
วัสดุตกแต่งพื้นผิวแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน นอกจากจะเพิ่มคุณค่าด้านความสวยงามแล้ว ยังช่วยให้การดูแลบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น
• พื้นบ้าน บริเวณที่เลอะบ่อยครั้ง ทั้งห้องน้ำ ห้องครัว เหมาะกับการปูกระเบื้องเซรามิกมากกว่าพื้นไม้ หรือพื้นปูนขัดมัน
• ผนังห้องน้ำ ควรกรุด้วยวัสดุกระเบื้องเซรามิกหรือโมเสก เพื่อการทำความสะอาดที่ง่าย
• ผนังครัว (Backsplash) ควรเลือกวัสดุประเภทเซรามิก สแตนเลส ช่วยให้เช็ดถูคราบสกปรกได้โดยง่าย
• ผนังกระจก หรือส่วนใด ๆ ที่ใช้วัสดุกระจกและโดนน้ำบ่อยครั้ง ควรเคลือบสารเคลือบกระจก ช่วยลดการเกาะของคราบน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดคราบสกปรก
• โซฟา หากงบมากพอ แนะนำให้เลือกวัสดุหนังแท้ สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายกว่าวัสดุประเภทผ้า ส่วนผ้านอกจากจะทำความสะอาดยากแล้ว ยังเป็นแหล่งสะสมไรฝุ่นอีกด้วยครับ
• ประตู หน้าต่าง หากให้ดูแลง่ายระยะยาวเลือกแบบอลูมิเนียม, ไวนิล จะมีปัญหาน้อยกว่างานไม้ เว้นแต่ผู้อ่านอยากได้ประตูหน้าต่างไม้ เพื่อดีไซน์และอารมณ์ของบ้าน
ทุกห้องได้รับแสงธรรมชาติ
หนึ่งในปัจจัยที่ก่อให้เกิดไรฝุ่น คือการปล่อยห้องให้อับชื้น โดยเฉพาะห้องที่ปิดทึบได้รับแสงจากธรรมชาติน้อย จะก่อให้เกิดมุมอับ การออกแบบห้องแต่ละห้อง จึงจำเป็นต้องออกแบบให้สามารถรับแสงสว่างจากธรรมชาติได้อย่างทั่วถึง แสงจากธรรมชาติจะช่วยฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ที่สะสมภายในบ้านได้
การมีห้องที่ดูโปร่ง สว่าง รับแสงจากภายนอกได้ นอกจากจะช่วยป้องกันความอับชื้นแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกตื่นตัว มีความขยันอยู่เสมอ ในทางกลับกัน ห้องที่มืดทึบ จะส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกขี้เกียจ ซึ่งจะเป็นต้นเหตุให้บ้านถูกปล่อยปละละเลยจากการดูแล
ห้องน้ำแห้งสะอาด แยกโซนเปียกแห้ง
ห้องน้ำที่ออกแบบมาดี จะช่วยเบาแรงผู้อยู่อาศัยไปได้มาก ในทางกลับกัน ห้องน้ำที่ออกแบบมาไม่ดี จะค่อย ๆ ดูดพลังงานผู้อยู่อาศัยทุก ๆ สัปดาห์ เพราะห้องน้ำเป็นห้องที่ต้องสัมผัสกับความเปียกชื้นอยู่เสมอ ส่งผลให้เกิดคราบสกปรกเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วัน
การป้องกันไม่ให้ห้องน้ำสกปรกเลย จึงเป็นเรื่องแทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่การแยกโซนเปียก ซึ่งเป็นเหตุปัจจัยที่ก่อให้เกิดคราบสกปรกบ่อย ๆ จะช่วยลดการดูแลได้ครับ ตัวอย่างเช่น โซนอาบน้ำ เป็นโซนที่ต้องเปียกอยู่เสมอ ควรมีผนังกั้นโซนเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกระเซ็นออกไปสู่บริเวณอื่น ๆ วัสดุผนังที่นำมาใช้กั้น แนะนำวัสดุกระจกหรือเลือกใช้ตู้อาบน้ำจะดูแลง่ายกว่าวัสดุอื่น ๆ ครับ นอกจากนี้ห้องน้ำที่ดีควรมีช่องระบายอากาศ อยู่ในตำแหน่งที่แสงแดดเข้าถึง หรือมีพัดลมระบายอากาศ จะช่วยขจัดความเปียกชื้นได้อย่างรวดเร็ว
บทความนี้เป็นเพียงข้อเสนอแนะบางส่วนหากนำไปปรับใช้จริง บริษัทนายหน้าขายบ้านและที่ดิน รับประกันได้เลยว่า บ้านของเราจะดูแลได้ง่ายขึ้น เบาแรงไปอีกเยอะ สวยงามดูเป็นระเบียบอยู่เสมอนะคะ..
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *