หากไม่รู้ว่าเพื่อนๆทางบ้านจะใช้วาระไหนมาเพื่อรื้อปรับเปลื่ยนสภาพบ้านละก็ แอดมิน อาชีพนายหน้า งั้นใช้วาระปีใหม่นี่แหละดีที่สุด ถือเป็นการให้ของขวัญกับตัวเองรับปีใหม่นี้
เราไม่ได้ใช้ของสิ่งนั้นมานานเท่าไหร่แล้ว ของสิ่งนั้นจำเป็นกับที่อยู่อาศัยของเราหรือไม่ ?
ถ้านานเกิน 1 ปี แสดงว่า ของนี้ไม่ได้จำเป็นกับชีวิตประจำวันของเรา ถ้าไม่จำเป็น เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ก็ควรทิ้งไป แต่ถ้าเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็น เช่น อุปกรณ์ช่างต่างๆ อันนี้แม้จะไม่ค่อยได้ใช้ ก็ยังเก็บไว้ได้ เพียงแต่ต้องสำรวจสักหน่อยว่ายังใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ ถ้าใช้ไม่ได้แล้ว ควรทิ้งไป สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนเพราะมันรกไปซะหมด แอดมิน อาชีพนายหน้า แนะนำว่า ให้ไล่จัดการไปที่ละจุด เริ่มด้วย
1. ที่จอดรถ ที่อยู่ในเขตพื้นที่บ้านของเรา
ลองนึกดูดีๆ จะเห็นภาพชัดเลยว่า เราไม่ได้ใช้เพื่อจอดรถเพียงอย่างเดียว แต่เรายังใช้วางข้าวของอีกมากมายที่อาจจะล้นออกมาจากตัวบ้าน หรือว่าไว้ในพื้นที่บ้านเราไม่ได้ ให้สำรวจเลยว่า มีของอะไรที่เราไม่ใช้แล้ว ดูทิ้งร้าง ดูเป็นตู้เก่าใกล้พัง ควรตัดใจทิ้งไปได้เลย แล้วคุณจะมีพื้นที่ส่วนนี้สำหรับใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้เพิ่มขึ้น
และนอกจากในเรื่องของการจัดบริเวณที่จอดรถให้สวยงามและสามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มพื้นที่แล้วนั้น อย่าลืมสังเกตถึงรอยแตกร้าวของที่จอดรถด้วย
2. สวนภายในบ้าน
กระถางต้นไม้ไหนพุพัง เก่าแล้ว ไม่ได้ใช้งาน ต้นไม้เน่า เราควรทิ้งไปเลยดีกว่า เก็บไว้ จะทำให้บ้านห่อเหี่ยว ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วก็ไม่ดี ตามหลักสายตาเราแล้วก็ไม่ดี ถ้าตื่นเช้ามา ต้องเจอต้นไม้เฉาๆ ตายคากระถาง คงไม่บันเทิงใจเท่าไหร่นัก แต่ถ้าสวนอยู่ในจุดอื่น และเป็นสวนที่มีพื้นที่ใหญ่ อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย ก็ค่อยๆ เก็บ ค่อยๆ ทำไป อะไรไม่ใช้ ควรทิ้ง หรือถ้าอยากเก็บไว้ ก็ควรหยิบมาทำความสะอาจให้ดูดีขึ้น ก็ช่วยได้เหมือนกัน
อ่านเพิ่มเติมสำหรับการจัดบ้านโดยยึดเรื่องฮวงจุ้ย: ฮวงจุ้ยบ้านที่ดี จัดห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว อย่างไร? อยู่แล้วโชคดี ร่ำรวย
3. ห้องนั่งเล่น
ตอนนี้เรากำลังเข้าสู่พื้นที่ที่เป็นหัวใจหลักของบ้าน และเป็นพื้นที่ที่อาจจะมีของเก็บสะสมมากที่สุดของตัวบ้าน โดยถ้าบ้านมีตู้โชว์ หรือตู้เก็บของที่เป็นระเบียบอยู่แล้ว ให้รื้อๆ ค้นๆ ดูสักหน่อย นำมาทำความสะอาดให้น่าดู อะไรที่ไม่ใช้แล้วก็ควรคัดๆ เลือกๆ ไปบริจาค หรือนำทิ้งไป แต่ถ้าไม่ได้มีตู้เก็บของ แล้วใช้วิธีวางๆ สุ่มๆ ไว้ตามมุมต่างๆ อันนี้ควรนำมาจัดให้เข้าที่เข้าทาง หาซื้อตู้เก็บของเล็กๆ มาเก็บให้เป็นระเบียบ พื้นที่ส่วนนี้ของเราก็จะดูดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
สำหรับคอนโดมิเนียมเอง จุดนี้ก็เป็นจุดที่หลายคนเก็บของไว้เยอะเหมือนกัน บางคนทำตู้บิลท์อินไว้ตั้งแต่อยู่อาศัยใหม่ๆ ของก็อัดเต็มตู้เลย ได้ฤกษ์ต้องมารื้อกันแล้ว อะไรไม่ใช้ อะไรจะบริจาค จัดเลย
4. ห้องเก็บของใต้บันได
จุดนี้บางบ้านก็มี บางบ้านก็ไม่มี ซึ่งบ้านที่มี ถือว่ามุมนี้เป็นจุดอับที่สุด และส่วนใหญ่จะใช้เก็บของโน่นนี่ จนบางทีลืมไปแล้วว่า เก็บอะไร ลองไปดู ค้นๆ หน่อย เพราะมุมอับต่างๆ อาจเป็นที่ซ่อนตัวของสัตว์ร้าย หรือหนู แมลงสาบได้ เพื่อสุขอนามัยภายในบ้าน จึงไม่ควรละเลยมุมนี้
5. ห้องครัว
จะว่าไป มุมครัว เหมือนไม่มีอะไร แต่เอาเข้าจริงๆ ก็เป็นอีกมุมในการเก็บสมบัติของใครหลายคนเช่นกัน โดยเฉพาะของที่เกี่ยวกับเครื่องครัว ถ้วยโถโอชาม หม้อไหนานาชนิด รวมถึง เครื่องปรุง สมุนไพรต่างๆ ที่อาจจะซื้อมาไว้นาน ควรใช้ฤกษ์ปีใหม่ในการรื้อ เครื่องปรุงหลายชนิด ซื้อมาไว้นาน แม้จะเหลือเยอะ แต่ให้ดูวันหมดอายุ ดูลักษณะของมันสักนิด ถ้าเห็นถ้าไม่ดี ควรทิ้งดีกว่าเก็บ เพราะถ้าใช้แล้วเป็นอันตรายต่อสุขภาพจะไม่คุ้มกัน
มุมนี้เป็นมุมที่จะมีเศษอาหารตกหล่นเยอะ เป็นมุมที่ดึงดูดหนู มด แมลงวัน แมลงสาบมากที่สุด เพราะเป็นแหล่งรวมอาหารของบรรดาสัตว์เหล่านี้ ดังนั้น จึงควรทำความสะอาดให้เรียบร้อย ทิ้งของไม่ใช้แล้ว ของหมดอายุไป แล้วมุมนี้อาจจะกลายเป็นมุมที่สร้างเชฟคนใหม่ของบ้านเลยทีเดียวก็ได้
6. ห้องน้ำ
ห้องน้ำก็จะคล้ายกับห้องครัว ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ก็มีอะไรเหมือนกัน แต่อาจจะน้อยกว่าหน่อย โดยควรสำรวจของทั้งหมดในห้องน้ำ ประตูห้องน้ำยังดีอยู่มั้ย ต้องเปลี่ยนหรือเปล่า พื้นที่ห้องน้ำถึงเวลาต้องขัด ต้องทำความสะอาดกันยกใหญ่แล้วหรือยัง กระจกในห้องน้ำ ยังส่อง ยังใช้งานได้หรือ ชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ ดูเก่าๆ จะเปลี่ยนใหม่หรือไม่ ถ้าไม่เปลี่ยนก็ควรทำความสะอาดและเหมือนกับห้องครัว ควรสำรวจว่า อุปกรณ์ไหนในห้องนี้ สบู่เหลว ที่ขัดตัว ยาสระผม ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีอะไรที่ซื้อมานานแล้ว ถึงควรแก่เวลาที่จะทิ้งไปได้แล้วหรือไม่ อะไรควรทิ้ง ก็ต้องทิ้งไป เพราะเมื่อถึงอายุของมันที่ไม่ควรใช้งานแล้ว ฝืนใช้ไป อาจมีผลกับผิวหนังของเราได้ ถึงเวลานั้น ต้องมาเสียค่ารักษาอีก ไม่คุ้มอีกเหมือนกัน
7. ห้องนอน
ห้องนี้ก็พีคพอๆ กับห้องนั่งเล่น เพราะห้องนอน ห้องส่วนตัวของใครของมัน มักจะเป็นที่เก็บของขนาดใหญ่ ตู้ที่มีเก็บของจนล้นแล้ว มีของสุ่มทุกมุมของห้องหรือไม่ ตุ๊กตาเต็มเตียง อุปกรณ์แต่งหน้าเต็มโต๊ะเครื่องแป้ง อะไรไม่จำเป็นควรขจัดออกเช่นกัน เพราะถ้าเรายังเก็บไว้ นอกจากจะทำให้ห้องรกแล้ว ในอนาคตเราอาจจะต้องเสียเงินซื้อตู้ใหม่ หรือโต๊ะเครื่องแป้งใหม่ เพื่อมาไว้ของเพิ่มก็เป็นได้ แล้วห้องที่เคยดูโล่งๆ ก็จะแคบไปถนัดตา
การทำห้องนอนให้โปร่ง โล่งมีความสำคัญกว่าห้องอื่นๆ พอสมควร เพราะเราใช้เวลาในการนอนกับห้องนี้ ถ้าห้องไม่สะอาด เราอาจจะเผลอสูญเอาสิ่งสกปรกเข้าสู่ร่างกายในระหว่างนอนอย่างไม่รู้ตัว ส่งผลให้กลายเป็นโรคภูมิได้ง่าย ยิ่งถ้าเป็นห้องนอนที่มีบุตรหลานเล็กแล้ว ไม่ควรละเลย หรือจะเป็นคนโตๆ อย่างเราๆ ก็ไม่ควรมองข้าม
และนอกจากพื้นที่สำคัญ 7 จุดในบ้านแล้ว อย่าลืมตรวจเช็กอุปกรณ์ทุกอย่างภายในบ้านด้วย เช่น ปลั๊กไฟฟ้า ก๊อกน้ำ ท่อน้ำทิ้ง สัญญาณเตือนไฟ เครื่องปรับอากาศ เครื่องปั๊มน้ำ โดยเฉพาะฟืนไฟต่างๆ ควรตรวจดูให้ดี เพราะอาจเกิดเหตุไฟลัดวงจร เหตุไฟไหม้ได้ โดยถ้าเราเลือกใช้ช่วงต้นปี ช่วงปีใหม่เป็นเวลาเริ่มต้นในการตรวจเช็ก แอดมิน รับสมัครนายหน้าอสังหา คิดว่าควรจะเริ่มปรับจากจุดนี้ได้แล้วนะคะ
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง