ไอเดียของทีม อบรมนายหน้าอสังหา ที่นำมาให้ชมกันในวันนี้เป็นผลงานของนักออกแบบและตกแต่งภายในที่อยู่ในกรุงเทพฯ นี่เอง มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญและผ่านประสบการณ์มามากมายภายใต้ทีม อบรมนายหน้าอสังหา หากใครชอบบ้านสไตล์โมเดิร์นจะลองนำไอเดียเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เหมาะกับบ้านของคุณก็ได้ เอาเป็นว่าเราตามไปดูกันเลยดีกว่าว่าแบบบ้านแต่ละหลังนั้นจะสวยขนาดไหนและมีฟังก์ชันน่าสนใจยังไงบ้าง
1.ห้องนั่งเล่น
ห้องนั่งเล่นสำหรับบ้านหลังนี้มีความเป็นส่วนตัวมากๆ เชื่อมต่อกับมุมทานข้าว ตกแต่งโทนสีอบอุ่นดูสบายตา เน้นเอิร์ธโทนเป็นหลัก สร้างความผ่อนคลายให้กับสมาชิกในบ้านเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ผนังในฝั่งตู้วางทีวีเลือกใช้หินอ่อนเข้ามาสร้างความหรูหราและดูดีให้กับบริเวณนี้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
2.ออกแบบคอนโดให้สวยสมกับพื้นที่
ถึงแม้ขนาดของคอนโดมิเนียมจะเล็กกระทัดรัดแต่นักออกแบบและตกแต่งภายในก็สามารถจัดสรรพื้นที่ได้สวยงามและลงตัวมากๆ ด้วยการบิลต์อินในส่วนของชั้นวางทีวีให้แนบชิดไปกับผนังแบ่งเป็นตู้บานทึบสำหรับเก็บของ ชั้นโปร่ง และชั้นวางทีวี มีโซฟาหนังขนาดกำลังดีวางตกแต่ง เชื่อมมายังโต๊ะอาหารและห้องครัว ตกแต่งโทนสีเทาและน้ำตาลเพื่อทำให้ห้องดูสวยไม่น่าเบื่อ
3.ห้องนอนน่านอนมากๆ
นี่เป็นบ้านเดี่ยวที่อยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี ตกแต่งบรรยากาศภายในสไตล์โมเดิร์น รวมถึงห้องนอนมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้เหมาะกับขนาดห้องเป็นอย่างดี ประกอบไปด้วยโซนสำหรับพักผ่อน มีตู้เล็กๆ สำหรับเก็บของใช้ส่วนตัว ถัดมาเป็นเตียง มีโซฟาอยู่ปลายเตียง พื้นที่ถัดมาเป็นโต๊ะทำงานรูปตัว L แบ่งกั้นระหว่างมุมพักผ่อนกับมุมทำงานได้เวิร์คทีเดียว
4.คอนโดสองชั้นสวยไม่แพ้กัน
คอนโดมิเนียมห้องนี้เน้นการตกแต่งที่ดูสบายๆ แต่ซ่อนความเป็นโมเดิร์นเอาไว้ได้อย่างน่าชม กำหนดโทนห้องให้เป็นสีโทนน้ำตาลอ่อนๆ เลือกใช้โซฟาและเฟอร์นิเจอร์บิลต์อินสีขาว เพิ่มความผ่อนคลายให้กับผู้อาศัยเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ภายในส่วนของห้องนั่งเล่นยังได้รับแสงธรรมชาติส่องเข้ามาทำให้มองเห็นต้นไม้สีเขียวด้านนอกด้วย
5.เชื่อมต่อพื้นที่หลายส่วนได้ลงตัว
เนื่องจากขนาดของคอนโดมิเนียมห้องนี้ไม่ใหญ่มาก การจัดสรรเนื้อที่จึงมีความสำคัญมากๆ ซึ่งนักออกแบบและตกแต่งภายในก็สามารถดีไซน์ฟังก์ชันให้เป็นไปตามความต้องการของเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี เมื่อเดินเข้ามาจะเจอกับโซนนั่งเล่นมีโซฟาสีเทาอยู่กลางห้องปูด้วยพรม ตรงผนังออกแบบเป็นชั้นวางทีวีที่ผสมผสานระหว่างไม้และหินอ่อนกลมกลืนกับผนังห้อง ด้านหลังทำเป็นมุมทานข้าวตกแต่งด้วยโต๊ะไม้ขาโปร่งเพื่อไม่ให้ดูอึดอัดเกินไป และมีตู้ไม้หน้าบานกระจกวางชิดผนังไว้สำหรับวางของโชว์เพื่อเพิ่มความสวยงาม
6.ต่อไปมาดูห้องสไตล์คลาสสิคกันบ้าง
อีกหนึ่งรูปแบบของการตกแต่งคอนโดมิเนียมขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก เนื่องจากเจ้าของห้องชื่นชอบสไตล์คลาสสิค ดังนั้นจึงให้นักออกแบบมาช่วยดูแลงานตกแต่งภายในให้ทั้งหมด ด้วยความที่ห้องค่อนข้างมีพื้นที่จำกัด ดังนั้นการทำบิลต์อินเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะทำให้ห้องเล็กๆ ดูสวยและมีความเป็นระเบียบ เน้นโทนสีน้ำตาลอ่อนและเข้ม เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ดูซอฟต์เพื่อให้เข้ากับสไตล์คลาสสิคนั่นเอง
7.ห้องนอนสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค
ไอเดียห้องนอนของบ้านหลังนี้ดูน่าพักผ่อนมากๆ เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสีขาวทั้งหมด เพื่อให้ดูสบายตาและไม่น่าเบื่อ บิลต์อินตู้และโต๊ะเครื่องแป้งชิดผนังทั้งหมดเพื่อใช้ประโยชน์จากผนังให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด แถมยังเป็นสัดส่วนและเกิดความคล่องตัวอีกด้วย
8.มุมนั่งเล่นที่มีดีไซน์น่าสนใจ
สำหรับบ้านไหนที่มีขนาดห้องนั่งเล่นไม่กว้างมากแต่อยากได้บรรยากาศที่ดูแล้วอบอุ่นทางทีม นายหน้าคอนโด จะลองนำดีไซน์แบบนี้ไปปรับใช้ก็ได้ หรือจะลองติดต่อโดยตรงไปที่เจ้าของผลงานก็ได้ ลูกเล่นน่าสนใจอยู่ตรงผนังที่ทำเป็นบิลต์อินขนาดกำลังพอดีแบ่งเป็นช่องสำหรับติดตั้งทีวี ถัดลงมาทำเป็นชั้นวางหนังสือและยังสามารถตกแต่งด้วยของกระจุกกระจิก เพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้แบบนี้ก็ทำให้ห้องนั่งเล่นดูสวยขึ้นมาได้แล้ว
9.ดูหรูหรามีสไตล์มากๆ เลย
มาถึงไอเดียสุดท้ายกันแล้วของทีม นายหน้าคอนโด เป็นงานออกแบบห้อง Penthouse 2 ชั้น 1ห้องรับแขก 2ห้องนอน 2ห้องน้ำ ที่ดูสวยงามและน่าทำตามมากๆ มีลูกเล่นตรงผนังที่ใช้หินอ่อนเข้ามาเพิ่มกิมมิกและซ่อนแสงไฟดูมีมิติ เข้ากันกับแชนเดอเลียร์วงกลมดีไซน์เก๋ มีโซฟาสีเทานั่งสบายเอาไว้ดูทีวีแบบส่วนตัวหรือจะเอาไว้รับแขกก็ได้
อบรมนายหน้าอสังหา
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ ต้องขายบ้านหลังนี้ให้ได้ หรือช่องยูทูป สมองอสังหา และ หน้าเว็บอย่างเป็นทางการ คอร์สลงทุนในบ้านมือสอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *